กรรมการ BOJ สายพิราบส่งสัญญาณสนับสนุนขึ้นดอกเบี้ย ชี้เงินเฟ้อญี่ปุ่นเข้าเป้า

อาซาฮิ โนกุจิ กรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งปกติสนับสนุนนโยบายดอกเบี้ยต่ำ หรือที่เรียกว่า “สายพิราบ” นั้น ได้ออกมาส่งสัญญาณในวันนี้ (29 ก.ย.) โดยระบุว่า ความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยในตอนนี้ “มีมากกว่าที่เคยเป็นมา”

ความเห็นนี้ยิ่งตอกย้ำว่า คณะกรรมการ BOJ ทั้งหมดอาจกำลังเปลี่ยนท่าทีไปในทางที่ต้องการคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น หรือที่เรียกว่า “สายเหยี่ยว” และอาจทำให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในเดือนต.ค. ที่จะถึงนี้

อาซาฮิ โนกุจิ ซึ่งที่ผ่านมาสนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมาโดยตลอด กล่าวว่า แม้จะยังมีความไม่แน่นอนเรื่องผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ แต่ตัวชี้วัดเศรษฐกิจหลายอย่างของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า ประเทศกำลังคืบหน้าในการทำให้เงินเฟ้อไปถึงเป้าหมาย 2% ได้อย่างมั่นคง โดยมีสัญญาณบวกคือ บริษัทต่าง ๆ เริ่มผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภคได้มากขึ้น และพร้อมที่จะขึ้นค่าจ้างพนักงานอย่างต่อเนื่อง

ความเห็นของโนกุจิตอกย้ำมุมมองในคณะกรรมการ BOJ ที่ว่า เงินเฟ้อที่ยังสูงต่อเนื่อง และความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงจากปัญหาสงครามภาษีที่ลดน้อยลง อาจเป็นเหตุผลเพียงพอให้รีบขึ้นดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้

ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนก.ย. แม้ BOJ จะมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% แต่ก็มีกรรมการ 2 คนที่โหวตสวนมติโดยเสนอให้ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เหตุการณ์นี้ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 50% ที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 29-30 ต.ค.

การที่โนกุจิ ซึ่งเคยโหวตค้านการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ออกมาส่งสัญญาณเช่นนี้ ยิ่งทำให้การคาดการณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักมากขึ้น

โนกุจิอธิบายเพิ่มเติมว่า ภาวะเงินฝืดที่ญี่ปุ่นเผชิญมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 2530 ทำให้คนส่วนใหญ่ฝังใจไปแล้วว่าข้าวของและค่าจ้างจะไม่ขยับขึ้น แต่ตอนนี้ ทัศนคติดังกล่าวกำลังเริ่มเปลี่ยนไป

โนกุจิกล่าวว่า ในอดีตที่เงินเฟ้อเป็นศูนย์ BOJ ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะแย่ลงเป็นหลัก แต่ตอนนี้ตลาดแรงงานแข็งแกร่งมาก จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะ “ดีเกินไป” จนเงินเฟ้อพุ่งสูงด้วย

“ผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีมุมมองเชิงนโยบายแบบใหม่ที่พร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะร้อนแรงเกินไป” โนกุจิกล่าว แต่ยังย้ำว่าต้องไม่ประมาทความเสี่ยงจากปัญหาสงครามภาษีของสหรัฐฯ

สำหรับภาพรวม BOJ ได้ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ไปเมื่อปีที่แล้ว และขึ้นดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 0.5% เมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ยังคงย้ำว่า การขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการขึ้นค่าจ้างและความต้องการซื้อในประเทศที่แข็งแกร่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 68)