“ลูกเนวิน” โต้ปม “รัฐมนตรีนอมินีบุรีรัมย์” รับแม้เป็นรมต.ป้ายแดงแต่พร้อมทำเต็มที่ใน 4 เดือน ปูดปมเสนอสินบน 40 ล้าน

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายโดยตั้งข้อสังเกตของการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่เชื่อว่าเป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ได้แก่ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม และ นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าดำรงตำแหน่งโดยบางคนขาดความรู้ความสามารถ บางคนมีประวัติที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น นอกจากนั้นรัฐบาลที่ผ่านมาได้ทำนโยบายปราบแก๊งคอลเซ็นตอร์อย่างเข้มแข็ง แต่พอพ้นจากรัฐบาล พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาระบาดอีกครั้ง

โดยนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาเป็น “รัฐมนตรีนอมินีบุรีรัมย์” ยอมรับว่า ยังไม่มีประสบการณ์บริหารในด้านการเมือง ไม่ว่าจะทำหน้าที่ใด ตนทำสุดความสามารถ เต็มกำลัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของบ้านเมือง และ เป็นฟันเฟืองสำคัญช่วยประเทศไทยพ้นจากหนึ่งภัยความมั่นคง คือ เอาพวกท่านออกจากบริหารสูงสุดของประเทศไทย

นายไชยชนก ยังระบุว่า มีคนติดต่อผ่านเพื่อนสมาชิกมาหาตน มาให้เงิน 40 ล้านบาทต่อเดือน ไม่ให้จับคอลเซนเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็บไซต์ ซึ่งตนก็สงสัยว่า ก่อนหน้านี้มีประเพณีปฏิบัติกันอย่างไร

“น้อมรับว่าไม่มีประสบการณ์เป็นฝ่ายบริหาร แต่สัญญาว่าจะทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และผมยอมรับว่าเริ่มตั้งแต่เข้ามา ยังไม่ได้แถลงนโยบาย มีเรื่องหลายเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกสงสัยในระบบประเพณีปฏิบัติของฝ่ายบริหาร ที่ท่านพูดถึงเรื่องปราบคอลเซ็นเตอร์ อย่างมีความตั้งใจ ผมยังไม่เข้ารับตำแหน่ง มีคนติดต่อหาผม ผ่านสมาชิกที่รู้จักผม เสนอมอบเงินให้ผมเดือนละ 40 ล้านบาท เพื่อไม่ให้จับเรื่องคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็ปไซต์ ทำให้สงสัยว่าประเพณีปฏิบัติของ รมว.ดีอีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่ผมปฏิเสธไปแล้ว นอกจากนั้นมีหลายเรื่องที่อยากศึกษา เพราะมีความเอ๊ะ แม้ผมไม่มีประสบการณ์แต่จะทำงานตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญทุกประการภายใน 4เดือน” นายไชยชนก ระบุ

*เพื่อไทย จี้ “ไชยชนก” กระชากหน้ากาก

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องร้ายแรง มีแก๊งลวงโลกใช้สมาชิกสภามาเจรจาให้สินบนรัฐมนตรี แต่เรื่องนี้จบแค่นี้ไม่ได้ นายไชยชนกในฐานะ รมว.ดีอี ต้องใช้เวลาที่มีอยู่ 4 เดือนนี้ กระชากหน้ากากแก๊งคนชั่วเหล่านั้นมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะหากรับรู้เรื่องนี้แล้ว แต่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต้องระวังประชาชนจะมองว่าเป็นรัฐมนตรีออกตัวแรง ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชาหรือไม่

“สำหรับผมเวลา 4 เดือนตาม MOA รมว.ดีอี ไม่ต้องทำอะไร แค่ตามจับคนชั่วเหล่านี้มาดำเนินคดีให้ได้ ก็ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ และเป็นประโยชน์มหาศาลต่อประชาชน และประเทศชาติ ตรงกันข้าม ถ้าท่านเพิกเฉย ทำได้แค่ปล่อยๆ ในสภา ไม่ได้ดำเนินการอะไรก็เท่ากับว่า ท่านให้ท้ายคนชั่วเหล่านี้สร้างความพินาศให้กับคนไทยต่อไป”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 68)