กทม.เจอถนนทรุดอีก เขตบางคอแหลม สั่งเร่งซ่อมใน 3 วัน

เกิดเหตุถนนบริเวณด้านหน้าการไฟฟ้ายานนาวาทรุด ลึกประมาณ 1-2 เมตร ถนนเกิดการแอ่นตัว พื้นที่เกิดเหตุมีความยาวประมาณ 26 เมตร ความกว้างประมาณ 9 เมตร มีกำแพงรั้วของเอกชนได้รับความเสียหาย ยาวประมาณ 20 เมตร และต้องปิดการจราจรบริเวณด้านหน้าการไฟฟ้าเขตยานนาวา 2 ช่องจราจร

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุถนนทรุดตัว บริเวณด้านหน้าการไฟฟ้ายานนาวา ถนนตก เขตบางคอแหลม โดยจากการตรวจสอบของสำนักงานเขตบางคอแหลม พบว่าจุดที่เกิดการทรุดตัวเป็นโพรงดินใต้พื้นถนนคอนกรีตความลึกประมาณ 1-2 เมตร ถนนเกิดการแอ่นตัว พื้นที่เกิดเหตุมีความยาวประมาณ 26 เมตร ความกว้างประมาณ 9 เมตร มีกำแพงรั้วของเอกชนได้รับความเสียหายความยาวประมาณ 20 เมตร โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโครงการก่อสร้างท่อร้อยสายใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์นี้ไม่ได้มีผลกระทบกับประชาชนและการจราจรมาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณปลายถนนเจริญกรุง โดยสภาพถนนมีการเอียงตัว ด้านล่างของถนนมีการไหลของดิน และจุดนี้น่าจะมีปัญหามาก่อนหน้านี้แล้ว ประมาณ 1 ปีกว่า และได้มีการดำเนินการซ่อมแล้ว แต่วันนี้ก็มีการทรุดตัวอีกครั้ง ขณะนี้ได้มีการปิดการจราจรไป 1 เลน ทั้งนี้ ใต้ถนนมีท่อของการไฟฟ้า สภาพยังคงแข็งแรงไม่มีปัญหา และมีท่อระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีดินไหลเข้าไปในท่อระบายน้ำหรือไม่ จะมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จะมีการนำเครื่องมือมาสแกนโพรงเพื่อตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ย้ำว่าไม่ต้องห่วง ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก จุดทรุดตัวเป็นช่วงปลายถนน สั่งการให้สำนักการระบายน้ำต้องระวังเรื่องการระบายน้ำและวางแผนการบล็อกน้ำให้ดี เนื่องจากกลัวจะไปท่วมเจริญกรุงแทน ตั้งเครื่องสูบน้ำให้พร้อม ต้องรื้อพร้อมหาสาเหตุให้ได้ และดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน

ทั้งนี้ สำนักงานเขตบางคอแหลม ได้ประสานสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการบล็อกกั้นแนวท่อระบายน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลไปยังพื้นที่ทรุดตัวของถนนเพิ่มเติม ด้านสำนักการโยธาและการไฟฟ้า จะช่วยกันสแกนพื้นที่และกำหนดขอบเขตการซ่อมต่อไป โดยการประปานครหลวงจะมีการปิดท่อหัว-ท้าย เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ การประปานครหลวงยืนยันว่าไม่กระทบประชาชน น้ำยังคงไหลตามปกติ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 68)