
บริษัทเซเวน แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ (Seven & i Holdings) และบริษัทค้าปลีกรายอื่น ๆ ในญี่ปุ่นได้แจ้งให้ลูกค้าทราบว่า เบียร์ Asahi Super Dry ซึ่งผลิตโดยบริษัทอาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Asahi Group Holdings) อาจจะขาดตลาด หลังจากบริษัทอาซาฮีถูกโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งทำให้การผลิตและการจัดจำหน่ายของอาซาฮีหยุดชะงัก
ลูกค้าในร้าน 7-Eleven บางแห่งเริ่มเห็นป้ายที่ประกาศว่าการจัดส่งเบียร์อาซาฮีได้ถูกระงับ ในขณะที่ร้านลอว์สัน (Lawson) และแฟมิลีมาร์ท (Familymart) เตือนว่าผลิตภัณฑ์จากอาซาอี ซึ่งมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ อาจขาดแคลนได้ตั้งแต่วันนี้ (3 ต.ค.) เป็นต้นไป
อาซาฮีได้แถลงเมื่อวันพุธ (1 ต.ค.) ว่า ทางบริษัทเลื่อนการเปิดตัวสินค้าใหม่ 12 รายการ หลังระบบล้มเหลวจากการโจมตีทางไซเบอร์ โดยทางบริษัทได้แจ้งหน่วยงานสอบสวนทราบแล้วเกี่ยวกับการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ที่ผ่านมา
การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ส่งผลให้ระบบของอาซาฮีเกิดปัญหา ทำให้คำสั่งซื้อและการจัดส่งของบริษัทในเครือในญี่ปุ่นต้องถูกระงับชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่ของอาซาฮีกล่าวว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกู้คืนการดำเนินงานกลับมาเป็นปกติเมื่อใด ขณะที่ในบางสาขานั้น การรับคำสั่งซื้อและการทำงานอื่น ๆ ต้องเปลี่ยนมาเป็นแบบแมนนวลแทนระบบอัตโนมัติ
ทั้งนี้ อาซาฮีกล่าวว่า ผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์จำกัดเฉพาะการดำเนินงานในญี่ปุ่น และยังไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลลูกค้ารั่วไหล
ภาวะติดขัดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทญี่ปุ่น ตลอดจนซัพพลายเชนด้านโลจิสติกส์และดิจิทัลที่มีความซับซ้อนนั้น มีความเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์แม้จะเพียงครั้งเดียว ซึ่งสามารถส่งผลกระทบเป็นวงกว้างตั้งแต่โรงงานไปจนถึงชั้นวางสินค้าในร้านสะดวกซื้อ
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทจะสามารถกู้คืนระบบได้นั้น ได้ฉุดหุ้นอาซีฮีร่วงลงราว 12% ในสัปดาห์นี้ โดยอาซาอีเป็นคู่แข่งกับคิริน โฮลดิงส์ (Kirin Holdings) และซันโตรี เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ดส์ (Suntory Beverage & Food) ในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดมีการแข่งขันสูง
ด้านเชนร้านอาหารบางแห่งเปิดเผยว่า ทางบริษัทอาจเปลี่ยนไปใช้เบียร์ซันโตรี คิริน หรือแบรนด์อื่น ๆ หากสินค้าคงคลังของอาซาฮีหมดลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 68)