
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย [CIMBT] ผนึกกำลัง บลจ.พรินซิเพิล เปิดตัวกองทุนเปิด พรินซิเพิล มาเลเซียน ฟิกซ์ อินคัม อันเฮดจ์ Principal Malaysian Fixed Income Fund Unhedged (PRINCIPAL MYRFIUH) ที่จะมาช่วยเสริมพอร์ตลงทุนให้แข็งแกร่ง โดยเสนอขายครั้งแรก (IPO) 29 กันยายน – 10 ตุลาคม 2568 ผ่านธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา และแอป CIMB THAI
นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ Head, Affluent & Wealth Segment ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวในงานเปิดตัวกองทุนว่า PRINCIPAL MYRFIUH เป็นกองทุนแรกในประเทศไทยที่ลงทุนในตราสารหนี้ประเทศมาเลเซีย ธนาคารได้คัดสรรกองทุนนี้เพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังตลาดตราสารหนี้ที่มีเสถียรภาพ และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจ ภายใต้สภาพแวดล้อมด้านอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้มาเลเซียที่เอื้อต่อการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว
ธนาคารเล็งเห็นว่า มาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน และยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันชั้นนำระดับโลก อาทิ Moody’s ให้อันดับเครดิตของพันธบัตรรัฐบาลมาเลเซียที่ระดับ A3 และ S&P ที่ระดับ A- ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว กองทุน PRINCIPAL MYRFIUH เน้นลงทุนเน้นตราสารหนี้มาเลเซียคุณภาพดี กองทุนไม่เคยเกิดการผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่จัดตั้งมาเกือบ 30 ปี บริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูง ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยไทยมีแนวโน้มปรับลดลง การลงทุนในตราสารหนี้มาเลเซียคุณภาพดีจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของพอร์ตการลงทุน พร้อมสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมออย่างต่อเนื่องให้ลูกค้า
นายอมรเทพ จาวะลา Head, Research Office ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียปีนี้จะเติบโต 4.2-4.3% และมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะโตเหนือ 4% ต่อปีในระยะ 5 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจมีศักยภาพสูงจากโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว อีกทั้งปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชน รายได้และค่าจ้างมีอัตราเติบโต ภาคอุตสาหกรรมมีการลงทุนและก่อสร้าง สำคัญคือผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น กล้าใช้จ่าย การเมืองมีเสถียรภาพ มีการลงทุนจากต่างชาติต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจมาเลเซียอาจเผชิญกับความเสี่ยงจากสงครามการค้า แต่ด้วยสินค้าส่งออกมีคุณภาพสูง ทำให้มาเลเซียมีศักยภาพในการแข่งขัน ด้านการลงทุนในตราสารหนี้ รัฐบาลมาเลเซียมีวินัยทางการเงินและการคลัง มุ่งลดการขาดดุลงบประมาณต่อเนื่อง ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือเครดิตเรตติ้งของพันธบัตรรัฐบาลมาเลเซียอยู่ในระดับสูง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเติบโตได้
นายศุภกร ตุลยธัญ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. พรินซิเพิล กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้ของมาเลเซียอาจไม่คุ้นเคยในหมู่นักลงทุนไทย แต่กลับมีศักยภาพที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ผลตอบแทน ความมีเสถียรภาพด้านเครดิต อัตราเงินเฟ้อระดับต่ำ และนโยบายการเงินที่ยังคงผ่อนคลาย ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ บลจ.พรินซิเพิล จึงเปิดตัวกองทุนเปิด PRINCIPAL MYRFIUH กองทุนแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนตราสารหนี้มาเลเซีย ลงทุนในกองทุนหลัก Principal Lifetime Bond Fund ภายใต้การบริหารจัดการโดย Principal Asset Management Berhad เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Principal Financial Group สถาบันการเงินระดับโลกที่ได้รับการจัดอันดับใน FORTUNE 500® โดยกองทุนมีประวัติยาวนานเกือบ 30 ปี ตราสารที่ลงทุนไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ และสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอด้วยกระบวนการลงทุนที่เข้มข้นและทีมงานมืออาชีพ จากที่กล่าวมาข้างต้น บลจ.พรินซิเพิลหวังว่า กองทุนนี้จะเป็นโอกาสการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุนไทย และเป็นหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของทุกท่าน
นายศุภจักร เอิบประสาทสุข รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ. พรินซิเพิล เปิดเผยว่า กองทุนเปิด PRINCIPAL MYRFIUH ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันกองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวคือ Principal Lifetime Bond Fund (กองทุนหลัก) Share Class MYR โดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนมาเลเซียคุณภาพสูงระดับ Investment Grade (เครดิตเฉลี่ย AAA-AA1) ให้อัตราผลตอบแทน (Yield to Maturity) ราว 3.8% และ อายุตราสารเฉลี่ยของพอร์ต (Duration) ประมาณ 4.4 ปี พร้อมการันตีคุณภาพด้วย Morningstar 4 ดาว ผลตอบแทนกองทุนโดดเด่น YTD (Jan-Aug 25) 4.3% และเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 5.4% ต่อปี ที่สำคัญ กองทุนนี้มีนโยบายเปิดรับความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedged) ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการป้องกันความเสี่ยง และยังมีโอกาสได้ผลตอบแทนเพิ่มจากแนวโน้มค่าเงินบาทเทียบมาเลเซียริงกิตที่คาดว่าอ่อนค่าในระยะข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 68)