
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ [ASW] กล่าวว่า ASW ยังคงรักษาการเติบโตด้านยอดขายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2568) บริษัทสามารถทำยอดพรีเซลได้ถึง 17,474 ล้านบาท คิดเป็น 90% จากเป้าหมายทั้งปีที่ 19,500 ล้านบาท และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% ซึ่งโครงการที่ทำยอดขายโดดเด่น คือโครงการเปิดใหม่ในช่วง ไตรมาส3/68 อย่างเคฟ แอลลี่ แจ้งวัฒนะ (KAVE Ally Chaengwattana) โครงการแคมปัสคอนโดตรงข้าม ม.ราชภัฏพระนคร ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย มูลค่า 1,000 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มนักศึกษา คนทำงาน และผู้ที่ซื้อเพื่อลงทุน
รวมถึงโครงการ Leisure Residences ในเมืองท่องเที่ยวภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ซึ่งรับการตอบรับเป็นอย่างดีตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย โดยโครงการเดอะ ไทเทิล วิลล่า คิรารา (THE TITLE Villa Kirara) โครงการวิลล่าหรูระดับแฟล็กชิปภายในโครงการมิกซ์ยูส “The TITLE Park” บนทำเลบางเทา-เชิงทะเล มูลค่า 1,500 ล้านบาท ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อ ส.ค. ที่ผ่านมาก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนมียอดจองเป็นจำนวนมาก และล่าสุด THE TITLE ได้ตอกย้ำความสำเร็จในการพัฒนาโครงการย่านบางเทา เปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียมน้องใหม่กับโครงการ “วีวี่” (ViVi) A Stylish Condominium มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพห่างจากหาดบางเทาเพียง 700 เมตร ถือเป็นการเข้ามาพัฒนาโครงการในเซกเมนต์ใหม่ในราคาคุ้มค่าเพียง 3 ล้านบาทต้นๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเปิดขายเมื่อช่วงปลาย ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าและเหล่าเอเจนท์อย่างล้นหลาม จนสามารถปิดการขายได้ในวันเดียว สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าต่างชาติที่มีต่อแบรนด์ของบริษัท
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายยังต้องจับตาทิศทางนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์แม้เผชิญความท้าทายด้านกำลังซื้อ แต่มีแรงหนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% เป็น 1.50% ต่อปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่การท่องเที่ยวส่งสัญญาณบวกต่อเนื่องโดยเฉพาะภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ระบุว่าปีนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมช่วง 7 เดือนแรกกว่า 5.58 ล้านคน ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า โดยนักท่องเที่ยวหลักมาจากรัสเซีย จีน และอินเดีย อีกทั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ยังคาดการณ์ว่ารายได้การท่องเที่ยวตลอดทั้งปีนี้อาจสูงถึง 550,000 ล้านบาท หรือโตราว 10% จากปีก่อน ตอกย้ำว่าภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนทั่วโลก
สำหรับการดำเนินงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ASW มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการควบคุมและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การบริหารจัดการพอร์ตโครงการพร้อมอยู่ และการเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ตามแผนปี 2568 จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,000 ล้านบาท ตาม Strategic Location ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และจังหวัดภูเก็ตซึ่งมีดีมานด์จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง และต้องการที่พักอาศัยระยะยาว (Long-Stay) รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะสั้นที่จะเดินทางเข้าประเทศในช่วงไฮซีซั่น ไตรมาส 4/68 ถึง ไตรมาส1/69 โดยเตรียมเปิดตัวเดอะ ไทเทิล บาลโคนี ในยาง (THE TITLE Balcony Naiyang) โครงการ Leisure Condominium มูลค่า 3,800 ล้านบาท อีกหนึ่งโครงการไฮไลท์ที่จะช่วยขับเคลื่อนยอดขายในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ ใกล้หาดกมลา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อน ทั้งสำหรับครอบครัวและผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย โดยยังถือเป็น โลเคชั่นศักยภาพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ รีสอร์ทหรู และวิลล่าระดับไฮเอนด์ จึงตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุน โดยติดตามรายละเอียดได้ในเร็วๆ นี้
“ไตรมาสสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ประกอบการจะจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ดึงดูดผู้บริโภคที่กำลังพิจารณาซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ทั้งยังเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก ASW จึงเตรียมทั้งโครงการพร้อมอยู่ และเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงพิจารณาเปิดโครงการใหม่ในภูเก็ตเพิ่มเติมจากแผนที่วางไว้ เนื่องจากกลุ่ม Leisure Residences ในภูเก็ตเป็นโครงการที่มีกระแสตอบรับดีมาตลอดตั้งแต่ต้นปี เรามั่นใจว่าภูเก็ตจะเป็นอีกแรงหนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายทั้งปีของ ASW ให้สำเร็จตามเป้าหมาย 19,500 ล้านบาท” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 68)