หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวรอลุ้นผล กนง.คงหรือลดดอกเบี้ยบ่ายนี้-เกาะติดความเห็นเฟด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งออกข้างนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดรู้ผลช่วงบ่ายวันนี้ โดยหากมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน หนุนโมเมนตัมดัชนียืนเหนือ 1,300 จุดได้ แต่หากมีมติคงอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณในระยะถัดไปที่ไม่ชัดเจน อาจมีแรงขายทำกำไรได้

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุนนักลงทุนรอติดตามพัฒนาการสถานการณ์ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะคลี่คลายได้เมื่อไร ขณะเดียวกันวันนี้ติดตามความคิดเห็นของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากสถานการณ์ชัตดาวน์สหรัฐฯ ทำให้การเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจชะลอออกไป ส่งผลให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับความเห็นของคณะกรรมการเฟด

โดยให้กรอบแนวรับ 1,295 จุด และแนวต้าน 1,315 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,602.98 จุด ลดลง 91.99 จุด หรือ -0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,714.59 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,788.36 จุด ลดลง 153.30 จุด หรือ -0.67%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดที่ระดับ 47,925.22 จุด ลดลง 25.66 จุด หรือ -0.05% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,900.64 จุด ลดลง 57.13 จุด หรือ -0.21% ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันชาติ

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ต.ค.) 1,305.24 จุด เพิ่มขึ้น 19.60 จุด (+1.52%) มูลค่าซื้อขาย 34,987.28 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (7 ต.ค.) 1,319.80 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. (7 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 61.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ต.ค.) อยู่ที่ 0.82 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.50/53 ทรงตัวรอปัจจัยใหม่ จับตาทิศทางดอกเบี้ย กนง.

– “ธนาคารโลก” ระบุไทย-จีน เผชิญแรงกดดันเงินฝืด ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยติดลบติดต่อ 6 เดือน ต่ำสุดในอาเซียน “พาณิชย์” มองไทยอยู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ช่วงเงินเฟ้อต่ำ ยังไม่เงินฝืดเต็มรูปแบบ “นักเศรษฐศาสตร์” ห่วงสินเชื่อติดลบนาน เสี่ยงฉุดไทยเข้าเงินฝืด ชี้ไทยน่าห่วงกว่าจีน จากกำลังการผลิต-จ้างงานต่ำ ห่วงสินเชื่อติดลบยิ่งฉุดไทยสู่เงินฝืด “หอการค้า” ชี้ประชาชนไม่กล้าจับจ่าย

– เศรษฐกิจไทยโค้งท้ายปี 68 ยังน่าห่วง! หนี้ครัวเรือนพุ่ง-กำลังซื้อวูบ ฉุดรั้งการฟื้นตัว แม้ท่องเที่ยวเป็นความหวัง แต่มีแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกและอัตราดอกเบี้ยยังสูง ขณะที่ SME ยังเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก แบกรับภาระหนี้ไฮบริด กกร.-ส.อ.ท. จี้รัฐบาลเร่งอัดมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง หวังเงินเฟ้อขยับพ้นแดนลบ

– ครม.อนุมัติ “คนละครึ่งพลัส” อัดงบ 4.4 หมื่นล้าน เติมกำลังซื้อ ปลุกเศรษฐกิจ ปลายปี “เอกนิติ” เผย เปิดให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไป ลงทะเบียน 20-26 ต.ค.ใช้สิทธิ์ 29 ต.ค. ถึง 31 ธ.ค.เมื่อรวมกับบัตรสวัสดิการ มั่นใจ เงินสะพัดแสนล้าน ดันจีดีพีไตรมาสสุดท้ายได้ 0.6% เตรียมออกนโยบายเพิ่มทุกสัปดาห์ ลุ้นดันจีดีพีโตเกิน 2.2% ครม.ไฟเขียว ตั้ง ครม.เศรษฐกิจ นายกฯ นั่งประธาน ขับเคลื่อนนโยบาย

– พาณิชย์ยุค “ศุภจี” เริ่มแล้ว มาตรการดูแลราคายา-เวชภัณฑ์ตามนโยบาย Quick Big Win กรมการค้าภายในเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ให้เปิดเผยราคาก่อนจ่ายเงิน เพิ่มทางเลือก ซื้อยานอกโรงพยาบาลได้ รุกคืบขั้นต่อไป ดึงร้านขายยา 2 หมื่นแห่งเข้าร่วม ย้ำชัดไม่ใช่ “ควบคุมราคา” แต่ให้เปิดเผย-โปร่งใสเพิ่มช่องทางซื้อยาเอง

– บ.วายแอลจีฯ (YLG) ชี้ ราคาทองคำในประเทศพุ่งแตะ 61,100 บาทต่อบาททองคำ ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบปี หลังชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ จุดกระแสถือทองหนีความเสี่ยงทั่วโลก แนวโน้มยังไปต่อ ลุ้นแตะ 68,000 บาทต่อบาททองคำ

– ครม.ไฟเขียวตั้ง ครม.เศรษฐกิจ “อนุทิน” นั่งประธาน พ่วงกรรมการ 25 คน ประชุมนัดแรกจ่อถกตั้งทีมไทยแลนด์เจรจาภาษีสหรัฐฯ ส่ง “ศุภจี” หัวหน้าทีมเจรจา ด้าน “เอกนิติ” จ่อออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ลดภาษีเที่ยวเมืองรอง เร่งราชการ-รัฐวิสาหกิจดูงานสัมมนาต้นปี 69 เตรียมดัน AMC แก้หนี้ประชาชน

– ‘อรรถพล’ ลุยจัดหนัก PDP ใหม่ ดันโซลาร์ประชาชน พร้อมดึงงบกองทุนอนุรักษ์หนุนโซลาร์สำหรับเกษตรกร ตอบสนอง Net Zero 2050 พร้อมหารือ กฟผ.แก้ปัญหาคอขวดระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าย่อยในอีอีซี รองรับการลงทุนใหม่ ลั่น ‘ไม่เล่นการเมือง แต่มาแก้โครงสร้าง’

 

หุ้นเด่นวันนี้

– AOT (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45.00 บาท คาดหวังการปรับขึ้นค่า PSC ซึ่งอาจจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย. นี้ ผสานกับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดจะค่อยๆฟื้นขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง High Season ปลายปี

มาตรการภาครัฐฯที่อาจออกมาเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย ถือเป็นแรงหนุนเชิงบวกต่อผลประกอบการในช่วงถัดไป

– BEM (พาย) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท คาดผลประกอบการไตรมาส 3/68 เติบโต QoQ รับปัจจัยบวกจากการเปิด Dusit Central Park และผ่อนคลายความกังวลเหตุการณ์แผ่นดินไหว แม้ว่าปริมาณการจราจรบนทางด่วนที่ลดลงกดดันกำไรให้ทรงตัว YoY ขณะที่แนวโน้มระยะกลางสดใสต่อเนื่องจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าและปริมาณการจราจรบนทางด่วนฟื้นตัว

– TRUE (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 14.12 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกกับ TRUE จากแนวโน้มของผลประกอบการหลัก ไตรมาส 3/68 คาดที่ 4.23 พันลบ. เพิ่มขึ้น 45.6% YoY และ 20.2% QoQ หนุนจากต้นทุนการผนึกกำลังจากการรวมกิจการและต้นทุนคลื่นความถี่ที่ลดลง อีกทั้ง TRUE ชนะประมูลคลื่น 2300MHz ราคาต่ำกว่าที่เราคาดไว้ถึง 37% อีกทั้งมีการประมูล 1500MHz เหนือความคาดหมาย หนุนให้เกิด Cost save ต่ำกว่าคาดหนุนการเติบโตของกำไรในปี 2569 เป็นต้นไป และ ส่งผลให้ TRUE มีแนวโน้มที่จะจ่ายปันผลมากขึ้นจากทิศทางของผลประกอบการที่เติบโตขึ้น ทั้งนี้คาดแรงกดดันจากปัจจัยลบ ของอุตสาหกรรมในระยะกลางระยะสั้นหมดลง จนกระทั่งประมูลรอบใหม่ปลายปี 2570 โดยเรามองอุตสาหกรรมจะกลับมา healthy และการแข่งขันที่ไม่รุนแรงตามแบบตลาด Duopoly

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 68)