เวียดนามคว้าสถานะตลาดเกิดใหม่ คาดดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติหลายพันล้านดอลล์

FTSE Russell บริษัทจัดทำดัชนีหุ้นระดับโลก ได้ปรับสถานะเวียดนามขึ้นเป็น ตลาดเกิดใหม่ (emerging market) ภายใต้เงื่อนไขที่จะมีการทบทวนอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในตลาดหุ้นเวียดนามที่มีผลตอบแทนดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ดัชนีหุ้นเวียดนาม (VNI) ปรับตัวขึ้น 33% แล้วในปีนี้ ทำให้เวียดนามเป็นตลาดหุ้นที่ทำผลตอบแทนสูงสุดในภูมิภาค โดยดัชนีทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในปีนี้ แต่ในช่วงเดือนส.ค. และ ก.ย. นักลงทุนต่างชาติได้เทขายทำกำไรมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการปรับสถานะเป็นตลาดเกิดใหม่อาจพลิกทิศทางการไหลออกของเงินทุนดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าระหว่าง 3.5–5 พันล้านดอลลาร์

FTSE Russell เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (7 ต.ค.) ว่า การปรับสถานะเวียดนามจากตลาดหุ้นชายขอบ (frontier market) เป็นตลาดเกิดใหม่ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 2569 และจะมีการทบทวนระหว่างกาลในเดือนมี.ค. 2569 เพื่อประเมินว่าเวียดนามมีความคืบหน้าเพียงพอหรือไม่ในการเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงตลาด

FTSE Russell ชี้ว่า เวียดนามดำเนินการปฏิรูปที่สำคัญหลายอย่างในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงการยกเลิกข้อกำหนดการวางเงินล่วงหน้าเต็มจำนวนสำหรับการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการปรับสถานะตลาด

นอกจากนี้ FTSE Russell ระบุว่า การปรับสถานะตลาดของเวียดนามครั้งนี้จะช่วยให้แนวปฏิบัติของตลาดเวียดนามสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ลดความเสี่ยงของคู่สัญญา และเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน

เหงียน วัน ถัง รัฐมนตรีคลังของเวียดนามกล่าวว่า การได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการและการปรับสถานะตลาดหลักทรัพย์เวียดนามเป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงเส้นทางการพัฒนาที่มั่นคงของประเทศ และความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการบูรณาการเข้าสู่ระบบการเงินโลกอย่างลึกซึ้ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 68)