
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินในวันนี้ (8 ต.ค.) โดยลงมติหั่นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 2.50% และยังเปิดทางที่จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมอีก โดยท่าทีนี้สะท้อนว่าผู้กำหนดนโยบายกำลังกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง
หลังจาก RBNZ ประกาศนโยบายดังกล่าว เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.90% มาอยู่ที่ 0.5745 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อัตราสวอปดอกเบี้ยอายุ 2 ปี ก็ลดลงจาก 2.6194% มาอยู่ที่ 2.521% เพราะนักลงทุนเชื่อว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อหนุนอุปสงค์
RBNZ ระบุในแถลงการณ์นโยบายว่า “คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Official Cash Rate – OCR) ลง 0.50% เหลือ 2.50% และ คณะกรรมการยังคงเปิดกว้างที่จะลด OCR เพิ่มเติมอีกตามความจำเป็น เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเข้าใกล้กึ่งกลางของกรอบเป้าหมายที่ระดับ 2% ได้อย่างยั่งยืนในระยะกลาง”
มติดังกล่าวผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่า RBNZ จะลดดอกเบี้ยเพียง 0.25%
นิค ทัฟฟ์ลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ASB ระบุในบทวิเคราะห์ว่า “การตัดสินใจของ RBNZ ครั้งนี้เป็นสัญญาณว่า แบงก์ชาติเลือกที่จะลดดอกเบี้ยทันทีเพราะเชื่อว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในอนาคตอาจจะน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ แทนที่จะรอดูสถานการณ์ไปก่อนว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน หรือเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อเนื่องอย่างไร”
นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 RBNZ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วรวม 3.00% และเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1% ถึง 3% ผู้กำหนดนโยบายจึงยังมีช่องว่างให้สามารถลดต้นทุนการกู้ยืมลงได้อีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ต.ค. 68)