
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยื่นฟ้องเพิกถอนหรือขับไล่ผู้ครอบครองที่ดินเขากระโดงเพิ่มอีก 15 แปลง โดยเป็นกลุ่มคดีส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผู้ที่ครอบครองที่ดินไว้จำนวนมาก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ยื่นฟ้องเพิกถอนหรือฟ้องขับไล่ ผู้ยึดถือครอบครองที่ดินบริเวณแยกเขากระโดงเอง และบริษัทนิติบุคคลและผู้ครอบครองที่ดินแปลงใหญ่ที่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รวม 11 แปลง
ส่วนกรณีที่ศาลฎีกา รวมทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำพิพากษายืนตามศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ของชาวบ้านจำนวน 35 รายในเขตพื้นที่ ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์นั้น เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้ร่วมกับสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อทำการไกล่เกลี่ยคดีกับชาวบ้านทั้ง 35 ราย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟฯ ทำสัญญาให้เช่าแล้ว
การรถไฟฯ ขอยืนยันว่า พื้นที่พิพาทกรณีเขากระโดงเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้ข้อพิพาทที่เป็นความสับสนในสังคมได้ข้อยุติ การรถไฟฯ จึงขอนำพิสูจน์สิทธิกันในศาล และเชื่อมั่นว่าศาลยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ การฟ้องร้องครั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาทรัพย์สินของทางราชการ และเพื่อประโยชน์สูงสุดของการรถไฟฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ต.ค. 68)





