ภาคการผลิตสหรัฐฯ กดดันสภาเปิดทำการรัฐบาลทันที ชี้กระทบเศรษฐกิจ-ลงทุน

กลุ่มผู้ผลิตกว่า 30 กลุ่มในสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องเมื่อวันพุธ (29 ต.ค.) ให้สภาคองเกรสเปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลกลางอีกครั้งโดยเร็วที่สุด เนื่องจากการชัตดาวน์รัฐบาลกำลังเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

กลุ่มผู้ผลิตระบุในหนังสือถึงผู้นำสภาคองเกรสว่า “การมีรัฐบาลที่เปิดทำการและทำงานได้อย่างเต็มที่ เป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกา ความสำเร็จของผู้ผลิตทั่วประเทศ และความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนของเรา”

พวกเขายังเน้นย้ำต่ออีกว่า “เมื่อรัฐบาลถูกปิด สิ่งนี้จะบีบคั้นความสามารถของเราในการลงทุนในชุมชนและบุคลากรของเรา ทั้งยังลดทอนความเชื่อมั่นในสถาบันของเราด้วย”

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลที่ตามมาจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลจะทำให้การอนุมัติผลิตภัณฑ์ที่สำคัญด้านความปลอดภัยช้าลง การลงทุนที่สร้างงานหยุดชะงัก และกระทบห่วงโซ่อุปทาน

กลุ่มผู้ผลิตย้ำว่า “ในแต่ละวันที่ผ่านไป ประชาชนอเมริกันต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหม่ และธุรกิจต่าง ๆ ยังคงติดอยู่กับภาวะที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้” พร้อมเรียกร้องให้สภาคองเกรสเปิดทำการรัฐบาลอีกครั้งโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ การชัตดาวน์รัฐบาลกลางย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 แล้ว และอาจสร้างสถิติสูงสุดตลอดกาลในอีกไม่ช้า โดยมีสัญญาณน้อยมากที่บ่งชี้ถึงการประนีประนอมระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน

รายงานจากสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ของสหรัฐฯ ระบุว่า การชัตดาวน์จะทำให้การใช้จ่ายของรัฐบาลกลางล่าช้า และส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจ

CBO ประเมินว่า การชัตดาวน์อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เสียหายระหว่าง 7,000 ล้านถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ภาวะนี้ยืดเยื้อ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 68)