
การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่วันนี้ (31 ต.ค.) ณ เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ โดยผู้นำเข้าร่วมประชุมเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและกำหนดแนวทางร่วมสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ในฐานะเจ้าภาพ ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง แห่งเกาหลีใต้ เรียกร้องให้ภูมิภาคเสริมสร้างความร่วมมือและความเป็นหนึ่งเดียว เพื่อก้าวข้ามความท้าทายใหม่ในช่วงที่โลกเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญ
ลีระบุว่า ขณะที่ระเบียบการค้าเสรีกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งรุนแรง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกทวีความรุนแรงขึ้น การค้าการลงทุนเริ่มชะลอตัว พร้อมเสริมว่า การปฏิวัติเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก่อให้เกิดทั้งความท้าทายครั้งใหม่และโอกาสสำคัญสำหรับภูมิภาค
“เราสามารถร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดของความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ลีกล่าวย้ำ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจโลก ร่วมกับการฟื้นตัวของนโยบายปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ (protectionism) และการดำเนินนโยบายฝ่ายเดียว (unilateralism) ที่กำลังพลิกโฉมระเบียบการค้าเสรีแบบดั้งเดิม
วาระการประชุมเอเปคปีนี้ ภายใต้แนวคิดสร้างอนาคตที่ยั่งยืน (Building a Sustainable Tomorrow) มุ่งเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาค ส่งเสริมนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและมั่นคงสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
รายงานวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APEC Regional Trends Analysis) ฉบับล่าสุดระบุว่า ประเทศสมาชิกเอเปคมีขนาดของเศรษฐกิจรวมกันกว่า 60% ของมูลค่า GDP โลก และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้จะขยายตัว 3.1% ในปี 2568 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการค้าที่มีความยืดหยุ่นและอุปสงค์สินค้าไฮเทคที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวเตือนว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกอาจลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.9% ในปี 2569 เนื่องจากหนี้สาธารณะปรับตัวสูงขึ้น และปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชั่วคราวที่เริ่มแผ่วลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 68)
 
								




