รมช.คมนาคม กำชับ บวท.ปรับเส้นทางบินและการขึ้นลงเครื่องบินรับลมเปลี่ยนทิศในฤดูหนาว

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงได้มอบหมายให้ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เตรียมความพร้อมบริหารจราจรทางอากาศ โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสำคัญ คำนึงถึงคุณภาพการให้บริการ การลดผลกระทบต่อผู้โดยสารและชุมชน อีกทั้งให้บูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานด้านการบิน

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ บวท.ศึกษาแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน (Capacity) ของประเทศ เน้นการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการจราจรทางอากาศ และเตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในอนาคต

นายสุรชัย หนูพรหม รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า เนื่องจากกระแสลมเปลี่ยนทิศทางในช่วงฤดูหนาว (ระหว่างเดือน พ.ย.-ก.พ.ของทุกปี) จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของลักษณะอากาศ โดยเฉพาะกระแสลมที่เปลี่ยนทิศทาง บวท.จำเป็นต้องปรับเส้นทางบิน รวมถึงทิศทางการขึ้นและร่อนลงของอากาศยาน โดยต้องทำการบินสวนลมเพื่อให้สอดคล้องกับหลักมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน

ขณะนี้ สนามบินสุวรรณภูมิ ได้มีการปรับใช้เส้นทางบินและทิศทางการวิ่งขึ้นและร่อนลงในช่วงฤดูหนาว 4 เดือน เปลี่ยนจากทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือ ส่วนดอนเมืองก็เช่นเดียวกัน จะทำการบินจากทางทิศใต้ขึ้นไปทางทิศเหนือเพื่อให้สวนกับทิศทางลมที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้เครื่องบินจำเป็นต้องบินผ่านย่านบางเขน ลาดพร้าว ดินแดง เพชรบุรี สุขุมวิท คลองเตย เพื่อเข้าไปลงสู่สนามบิน

หากมีการเปลี่ยนแปลงกระแสความเร็วลมที่เกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย ก็จะมีความจำเป็นต้องมีการปรับเส้นทางบินให้เหมาะสมในแต่ละวัน โดย บวท.เตรียมความพร้อม ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง ประสานข้อมูลกับนักบิน สายการบิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และเกิดผลกระทบต่อภาพรวมบริการจราจรทางอากาศน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม บวท.อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน (Capacity) วิธีการบริหารจัดการ และข้อจำกัดด้านต่าง ๆ ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีสนามบินที่มีลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกัน ได้แก่ สนามบินอินชอนของเกาหลีใต้ และสนามบินฉงชิ่งของจีน โดยจะนำรูปแบบและแนวทางการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ ทั้งลักษณะทางกายภาพ อาทิ ทางวิ่ง ทางขับ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรองรับการใช้งาน 4 ทางวิ่งในอนาคต รวมถึงการบริหารจัดการห้วงอากาศ นอกจากนี้ อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อยกระดับความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 68)