ทางหลวงเล็งชงมอเตอร์เวย์ M8 กว่า 5.5 หมื่นลบ.เข้าครม.ต้นปี 69 พร้อมเปิดวิ่งฟรี M81 ตลอด 24 ชม.

นายปิยพงศ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงจะผลักดันโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 สายนครปฐม-ปากท่อ (M8) เชื่อมจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสมุทรสงครามเชื่อมไปสู่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 61 กม. วงเงินรวม 54,562 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างโยธา 40,162 ล้านบาทและค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 14,400 ล้านบาท

ปัจจุบันกรมทางหลวงได้เสนอต่อกระทรวงคมนาคมแล้ว และคาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการภายในเดือน ม.ค.69

สำหรับโครงการ M8 แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 1. ช่วงนครปฐม-ตลาดจินดา ระยะทาง 9.3 กม. ค่าก่อสร้างราว 10,000 ล้านบาท ใช้เงินลงทุนจากกองทุนค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์ เริ่มก่อสร้างในปี 70 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงตลาดจินดา-ปากท่อ ระยะทาง 51.8 กม.ค่าก่อสร้าง 40,162 ล้านบาท เสนอขอใช้งบประมาณเริ่มก่อสร้างในปี 71 ส่วนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) จะเป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP คาดว่าจะแล้วเสร็จแล้วเปิดทดลองให้บริการในปี 75

นอกจากนี้ กรมทางหลวง จะเดินหน้าผลักดันการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงตามยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงอย่างราบรื่นไร้รอยต่อสู่ภาคตะวันตกและภาคใต้ โดยมีแผนงานสำคัญในปี 69 ก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 338 ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายทางยกระดับบรมราชชนนี ช่วงพุทธมณฑลสาย 3 – พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทาง 4.63 กม. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนลงนามในสัญญาและจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ.69 จะแล้วเสร็จเปิดให้บริการในเดือน เม.ย.72

*เคาะเปิดทดลองวิ่งฟรี 24 ชม. มอเตอร์เวย์ M81 เริ่ม 31 ต.ค.

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม ลงพื้นที่บริเวณด่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อติดตามความพร้อมในการเปิดทดลองให้บริการ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 (M81) สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี พร้อมคณะ และบริษัทร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ (BGSR 81), บริษัทที่ปรึกษาโครงการ และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการเร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และสะท้อนถึงการบูรณาการของทุกภาคส่วนในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทางอย่างเต็มระบบ

นางสาวมัลลิกา กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้ลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามความพร้อมการเปิดทดลองให้บริการฟรี ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ของโครงการมอเตอร์เวย์ M81 ซึ่งเป็นโครงข่ายยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมที่สำคัญของประเทศที่จะเชื่อมโยงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลไปสู่ภาคตะวันตก และเชื่อมต่อไปยังภาคใต้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยจะมอบความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ในการเดินทาง และการคมนาคมแก่ประชาชน สามารถร่นระยะเวลาในการเดินทางจาก ถ.รัตนาธิเบศ อ.บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ถึง จังหวัดกาญจนบุรี เดิมใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง เหลือเพียงประมาณไม่ถึง 1 ชม.

การเปิดทดลองให้บริการมอเตอร์เวย์ ช่วงบางใหญ่-กาญจนบุรีครบทุกด่าน เป็นการเปิดให้เข้ามาใช้บริการได้ฟรี ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดให้บริการตลอดเส้นทาง ตั้งแต่เดือน พ.ค.68 สรุปสถิติปริมาณจราจรเฉลี่ยมากกว่า 35,000 คัน/วัน และสูงสุดมากกว่า 50,000 คัน/วันในวันหยุดนักขัตฤกษ์ โครงการนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจกว่า 100,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความต้องการใช้เส้นทางของประชาชนได้เป็นอย่างดี

นายปิยพงษ์ กล่าว่า เนื่องจากปัจจุบันโครงการฯ ยังอยู่ในระหว่างการการก่อสร้าง พร้อมทั้งยังมีงานติดตั้งและทดสอบระบบต่างๆ จึงได้กำหนดให้มีการจำกัดความเร็วของยานพาหนะเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยรถยนต์ รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุก และรถบัสโดยสาร จำกัดความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนรถพ่วงจำกัดความเร็วไม่เกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในช่วงการเปิดทดลองให้บริการนี้ รมว.คมนาคม ได้กำชับให้กรมทางหลวง บริษัท บีจีเอสอาร์ 81 จำกัด ในฐานะเอกชนที่รับผิดชอบดูแลและบริหารจัดการมอเตอร์เวย์ M81 และทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้ง ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด

สำหรับการดำเนินงานติดตั้งงานระบบ ภายใต้สัญญาการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ หรือ PPP ส่วนงาน O&M ปัจจุบันมีความคืบหน้า 98% โดยกรมทางหลวงได้เร่งรัดให้ บริษัท บีจีเอสอาร์ 81 ติดตั้งและทดสอบงานระบบส่วนที่เหลือ เพื่อเตรียมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบและเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางภายในเดือน ม.ค.69 สำหรับรถยนต์จากบางใหญ่-กาญจนบุรี อัตรา 150 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 68)