
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกประกาศเตือนเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ให้พลเมืองอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศไนเจอร์ หลังเกิดเหตุลักพาตัวมิชชันนารีชาวอเมริกันในกรุงไนอาเมย์ เมืองหลวงของประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุถึงความเสี่ยงจากอาชญากรรม ความไม่สงบ การก่อการร้าย ความเสี่ยงด้านสุขภาพ และเหตุลักพาตัวที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แจ้งว่า รัฐบาลไม่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่พลเมืองอเมริกันที่อยู่นอกกรุงไนอาเมย์ได้ เนื่องจากสถานการณ์ด้านความปลอดภัยอยู่ในระดับที่น่ากังวล พร้อมแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปไนเจอร์ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทางกระทรวงฯ ยังได้อนุญาตให้สมาชิกครอบครัวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เดินทางออกจากไนเจอร์ทั้งหมดด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ที่ยังคงปฏิบัติงานอยู่จำเป็นต้องใช้รถหุ้มเกราะในการเดินทาง และอยู่ภายใต้ข้อบังคับห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปยังร้านอาหารหรือเดินตลาดกลางแจ้ง
ในปีนี้ เหตุลักพาตัวในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกเพิ่มความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีกลุ่มติดอาวุธเคลื่อนไหว โดยมีรายงานว่า หญิงชาวออสเตรียถูกลักพาตัวในเดือนม.ค. และชาวสวิสในเดือนเม.ย. ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในไนเจอร์
นอกจากนี้ ยังมีชาวอินเดีย 5 คนซึ่งทำงานให้กับบริษัทผู้ให้บริการโครงการเขื่อนคันดัดจีของไนเจอร์ ถูกลักพาตัวระหว่างเหตุโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้ทหารไนเจอร์เสียชีวิตกว่า 10 นาย
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนการเดินทางระดับ 4 สำหรับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาลีด้วย โดยให้เหตุผลว่า มาลีกำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากกลุ่มกบฏที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 พ.ย. 68)





