“พิพัฒน์” ผลักดันค่าทางด่วน 50 บาทตลอดสายก่อนปีใหม่ ส่งซิก BEM ลุย Double Deck

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนมีแนวคิดในการลดค่าเดินทางของประชาชนในส่วนของทางด่วนทุกสายให้ไม่เกิน 50 บาท โดยจะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 6 พ.ย. 68 คาดว่าจะมีความชัดเจน โดยตั้งเป้าให้เริ่มใช้เพื่อเริ่มใช้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ 2569 นี้

โดยกรณีการลดค่าผ่านทางด่วนเหลือไม่เกิน 50 บาทตลอดสาย เป็นแนวทางภายใต้โครงการก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2สายงามวงศ์วาน-พระราม 9 (Double Deck) ซึ่งจะมีการปรับปรุงสัญญาสัมปทานกับ บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ [BEM] นั้น นายพิพัฒน์กล่าวว่า เรื่อง Double Deck ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2562 หรือ PPP ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะก่อสร้างเสร็จ แต่นโยบายเรื่องลดค่าทางด่วน 50 บาทตลอดสาย ต้องมาก่อน Double Deck ต้องทำทันที

“เรื่องทางด่วน Double Deck ก็ไม่ได้ว่า มีขั้นตอนก็ทำไป แต่ต้องแลกเปลี่ยนกันได้ คือต้องให้ค่าผ่านทาง 50 บาททันที ไม่ใช่เจรจา แล้วรอสร้างเสร็จค่อยให้ 50 บาทแบบนี้ไม่ได้ เพราะรอกว่าจะก่อสร้างเสร็จต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี”

นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ BEM เปิดเผยว่า ในรัฐบาลนี้ได้พูดคุยกับ BEM เกี่ยวกับโครงการ Double Deck และการปรับอัตราค่าผ่านทางด่วนเป็น 50 บาทตลอดสาย โดยให้ BEM เป็นผู้ลงทุนโครงการ Double Deck มูลค่าเงินลงทุนราว 3.5 หมื่นล้านบาทโดยขยายระยะเวลาสัมปทานทางด่วนออกไป 22 ปี 5 เดือน

“รัฐบาลอยากทำเร็ว …ผมมองว่าเป็นโครงการสัมปทานที่ใหญ่ที่สุดในรัฐบาลนี้ โครงการนี้สามารถทำได้เลยเพราะไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐ เขาน่าจะพยายามทำให้ทันสิ้นปีนี้เพื่อให้ใช้อัตรา 50 บาทตลอดสายให้ทันปีใหม่ หรือทำให้ทันในรัฐบาลนี้” นายสมบัติกล่าวกับ”อินโฟเควสท์”

นายสมบัติ กล่าวว่า เงื่อนไขการลงทุนโครงการ Double Deck ของ BEM ก็ยังเหมือนที่ได้เคยหารือกันไว้ในรัฐบาลก่อนหน้าที่นอกจากขยายระยะเวลาสัมปทานให้แล้ว และจะรวมเรื่องการเก็บค่าผ่านทางด่วน 50 บาทตลอดสาย โดยที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)ก็จะมีการปรับสัดส่วนการรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ของทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 เพื่อให้ BEM รับรู้รายได้เท่าเดิม

โดยโครงการดังกล่าว BEM ได้มีการหารือไว้มาหลายรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนมาถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนายกรัฐมนตรี 2 คน จนมารัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ได้เดินหน้าต่อ เพราะไม่ว่ารัฐบาลไหนมาดำเนินการทำให้เสร็จก็จะดีกับรัฐบาลนั้นๆ

นายสมบัติ กล่าวว่า BEM มีความพร้อมในการดำเนินการได้ โดยมีบมจ.ช.การช่าง [CK] ที่จะมาก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้น ขณะที่ BEM จะจัดหาวงเงินลงทุน โดยที่ไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้น

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยังเดินได้ตามแผน โดยต้นปี 70 บริษัทฯเตรียมรับมอบรถไฟฟ้าที่สั่งจากซีเมนส์ และปลายปี 70 เตรียมเปิดให้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย- มีนบุรี(สุวินทวงศ์) และทยอยรับรถไฟฟ้าเพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นหลังสายสีส้มเริ่มวิ่งฝั่งตะวันออก และในปี 74 ก็จะวิ่งรถไฟฟ้าสายสีส้มทั้งเส้นทาง ตั้งแต่บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ย. 68)