
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai รับ บมจ. เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อ “MMM” ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 และเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกที่ย้ายมาจากตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx)
MMM ประกอบธุรกิจตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยทุกประเภทให้กับเจ้าของโครงการ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม รวมถึงให้บริการวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยมือสอง โดยนำมาปรับปรุงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ดีก่อนนำออกจำหน่าย บริษัทใช้ช่องทางการขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระที่ขึ้นทะเบียนไว้กับบริษัท จำนวน 361 คน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2568 บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างให้บริการและรอการขาย 29 โครงการ รวม 808 ยูนิต สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากที่ปรึกษางานขายโครงการ (ไม่รับประกันการขาย) : การบริหารงานขายโครงการ (รับประกันการขาย) : การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ อยู่ที่ 37 : 56 : 7 ตามลำดับ
MMM มีทุนชำระแล้วหลัง PO 150 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 247.8 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 52.2 ล้านหุ้น และมีขายหุ้นสามัญเดิมโดย บริษัท ณัชชา โฮลดิ้ง จำกัด อีกจำนวน 12 ล้านหุ้น จัดสรรต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 54.57 ล้านหุ้น และผู้มีอุปการคุณของบริษัท ไม่เกิน 9.63 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2568 ในราคาหุ้นละ 5.5 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 287.1 ล้านบาท และมูลค่าที่เสนอขาย 353.1 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา PO 1,650 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น PO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 13.41 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ก.ค.67-30 มิ.ย.68) ซึ่งเท่ากับ 122.30 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.41 บาท โดยมีบริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ
ผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง PO: กลุ่มนางสาวณิชา โรจน์วัฒนา (ภรรยา) และนายสุริยา วงศ์สิทธิชัยกุล (สามี) ถือหุ้นรวม 73.33% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมาย และตามข้อบังคับของบริษัท

นางสาวณิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MMM กล่าวว่า MMM มีความพร้อมในการนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาด mai ด้วยจุดเด่นบนความแตกต่างทางธุรกิจเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯ รายอื่นๆ ภายใต้แนวคิด “เพื่อนคู่คิด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์” ที่มีเครือข่ายนายหน้าอิสระขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมถึงกลุ่มลูกค้า รวมถึงการมีทรัพย์พร้อมขายโดยไม่มีต้นทุนพัฒนาโครงการ ไม่ต้องรอระยะเวลาพัฒนา ไม่ต้องรับประกันและให้บริการหลังการขายที่สำคัญสามารถเลือกทรัพย์ที่พร้อมขายและทำเลที่ต้องการได้ โดยสามารถบริหารหลายโครงการพร้อมกันทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันยังสามารถบริหารความเสี่ยงได้ดี เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีภาระดอกเบี้ยจากต้นทุนพัฒนาโครงการ โดยใช้กลยุทธ์ Leverage เพื่อขยายพอร์ตสินทรัพย์สำหรับขายได้ในวงกว้าง และมี Cash Cycle ต่ำ เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการทำกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นด้วยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน 287.10 ล้านบาทในครั้งนี้ MMM จะเร่งนำไปต่อยอดธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกแม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังคงเผชิญกับแรงกดดันและความท้าทายหลายด้าน แต่ MMM ยังคงรักษาความได้เปรียบทางธุรกิจได้ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 561.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา(YoY) ขณะที่กำไรสุทธิ 102.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.81%(YoY) คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 18.33% สะท้อนถึงศักยภาพการบริหารธุรกิจท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน
อัตราการเติบโตของสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นในงวด 9 เดือนแรก มาจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1. ธุรกิจที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) ดำเนินธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ แต่เพียงผู้เดียวให้กับเจ้าของโครงการ เพื่อให้บริการแนะนำติดต่อผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย รวมถึงประสานงานเพื่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างผู้ซื้อและเจ้าของโครงการจนแล้วเสร็จ มีรายได้ 168.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.12%(YoY)
2. ธุรกิจการบริหารงานขายโครงการ (BU2) ดำเนินธุรกิจตัวแทนขายและรับประกันการขายแต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้บริการแนะนำ ติดต่อผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างผู้ซื้อและเจ้าของโครงการจนกว่าแล้วเสร็จ รวมถึงให้บริการบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) ซึ่งเป็นการให้บริการ (BU1) ในช่วงแรก และเลือกให้บริการแบบรับประกันการขาย (BU2) มีรายได้ 363.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,415.94%(YoY) และ 3. ธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (BU3) บริษัทฯ มีรายได้ 30.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.14 %(YoY)
บริษัทใช้กลยุทธ์การขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ โดยการจ่ายค่าตอบแทนในรูปแบบ Margin-based Commission ที่คำนวณจากส่วนต่างระหว่างราคาส่งนายหน้าอิสระที่บริษัทกำหนดและราคาขายอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ นายหน้าอิสระจะเสนอราคาขายแก่ผู้ซื้อภายในกรอบราคาขายมาตรฐานที่บริษัทและเจ้าของโครงการกำหนด ทำให้นายหน้าอิสระสามารถจัดโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อแต่ละราย ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินประกันในการทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน MMM งวด 9 เดือนแรกกำไรสุทธิ 102.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.81% ทุบสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 7.22 เท่า และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 68.80 เท่า อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ที่ 59.29 เท่า และหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือหุ้น (IBD/E) ที่ 0.03 เท่า
จากปัจจัยดังกล่าวถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเห็นถึงทิศทาง และโอกาสการเติบโตของ MMM ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการเป็นหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ที่สำคัญเป็นบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ที่ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนขายที่อยู่อาศัยประเภทบ้าน และ คอนโดมิเนียม มือ 1 รายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 68)





