
บรรดานักลงทุนในตลาดปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ศาลฎีกาสหรัฐฯ จะตัดสินรับรองมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากคณะผู้พิพากษาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของภาษีศุลกากรที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันพุธ (5 พ.ย.)
ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Kalshi ระบุว่า นักลงทุนมองความเป็นไปได้ที่ศาลจะมีคำวินิจฉัยสนับสนุนมาตรการภาษีทรัมป์ ร่วงลงเหลือราว 30% จากเกือบ 50% ก่อนการไต่สวน ขณะที่บนแพลตฟอร์ม Polymarket ปรับลดจากกว่า 40% เหลือประมาณ 30% ในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนว่านักลงทุนจำนวนมากเริ่มมองว่าศาลอาจไม่รับรองนโยบายภาษีดังกล่าว
รายงานระบุว่า ผู้พิพากษาศาลฎีกาหลายคน ทั้งสายอนุรักษนิยมและสายเสรีนิยม แสดงความกังวลต่อการที่ทรัมป์ใช้อำนาจตามกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) เพื่อออกภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้า
ในระหว่างการไต่สวน ผู้พิพากษาได้ตั้งคำถามอย่างเข้มข้นต่อนายดี. จอห์น เซาเออร์ ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นฝ่ายว่าความให้รัฐบาลทรัมป์ เกี่ยวกับเหตุผลทางกฎหมายในการออกมาตรการภาษีที่นักวิจารณ์ชี้ว่าอาจละเมิดอำนาจของสภาคองเกรสในการจัดเก็บภาษี
ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างมีคำตัดสินตรงกันว่า ทรัมป์ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย IEEPA ในการออกมาตรการภาษีดังกล่าวต่อประเทศคู่ค้า รวมถึงภาษีที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลที่เรียกเก็บจากแคนาดา จีน และเม็กซิโก
ทั้งนี้ ศาลฎีกายังไม่ประกาศคำตัดสินทันที โดยกระบวนการพิจารณาอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน เนื่องจากประเด็นต่าง ๆ มีความซับซ้อนสูง และคาดว่าอย่างช้าที่สุด ศาลจะมีคำวินิจฉัยภายในสิ้นเดือนมิ.ย. 2569
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 68)





