
สื่อต่างประเทศรายงานว่า กัมพูชากำลังจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ฝากทองคำสำรองกับประเทศจีน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จเบื้องต้นในความพยายามของจีนที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทองคำระดับโลก แข่งกับศูนย์กลางดั้งเดิมอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
แหล่งข่าวเผยกับบลูมเบิร์กว่า กัมพูชามีแผนการจะนำทองคำสำรองส่วนหนึ่งไปเก็บไว้ในตู้นิรภัยที่จดทะเบียนกับตลาดซื้อขายทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปลอดอากรของเมืองเซินเจิ้น โดยข้อตกลงนี้เป็นการจัดเก็บทองคำที่ซื้อใหม่มากกว่าการย้ายทองคำจากคลังสำรองที่มีอยู่เดิม และนอกจากกัมพูชาแล้ว ยังมีประเทศอื่น ๆ อีกสองสามประเทศที่แสดงความสนใจในลักษณะเดียวกัน
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย กล่าวคือ ปักกิ่งต้องการจะเป็นผู้ดูแล (custodian) ทองคำของประเทศอื่น ๆ เพื่อสร้างระบบการเงินโลกที่ลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและศูนย์กลางตะวันตกให้น้อยลง การดึงดูดทองคำสำรองจากต่างชาติจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและความน่าเชื่อถือให้กับตลาดการเงินจีน อีกทั้งจะสนับสนุนให้เงินหยวนเป็นที่ยอมรับในตลาดการค้าโลกและทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นด้วย
ในส่วนของกัมพูชานั้น การตัดสินใจฝากทองคำกับจีนจะเป็นโอกาสในการกระจายสินทรัพย์ที่มีมูลค่าออกจากศูนย์กลางดั้งเดิมอย่างลอนดอน และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจในภูมิภาค
เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชาเปิดเผยว่า กำลังพิจารณา “สถานที่สองสามแห่ง” สำหรับการจัดเก็บทองคำของประเทศ แต่ไม่ได้ระบุว่าจีนเป็นหนึ่งในสถานที่เหล่านั้นหรือไม่ ขณะที่ข้อมูลจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า ปัจจุบันธนาคารกลางกัมพูชามีทองคำสำรองอยู่ประมาณ 54 ตัน คิดเป็นหนึ่งในสี่ของทุนสำรองระหว่างประเทศมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ กัมพูชาและจีนมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและแน่นแฟ้น โดยกัมพูชาเป็นพันธมิตรสำคัญภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative – BRI) ของจีน ขณะที่จีนถือครองหนี้ของกัมพูชาถึงหนึ่งในสาม
แม้ขณะนี้ยังมีการยืนยันจากธนาคารกลางของทั้งสองประเทศ และยังไม่มีการเปิดเผยปริมาณทองคำที่กัมพูชาจะฝากไว้กับจีน แต่ข้อตกลงดังกล่าวจะถือเป็นตราประทับรับรองที่สำคัญต่อระบบการเงินของจีน หลังจากที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดซื้อขายทองคำเซี่ยงไฮ้ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตลาดทองคำทางกายภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 68)





