พื้นที่ปลูกกาแฟเวียดนามเสี่ยงกระทบหนัก หลังไต้ฝุ่นคัลแมกีจ่อขึ้นฝั่ง

พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi) กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งเวียดนาม พร้อมกำลังลมแรงที่สามารถโค่นล้มต้นไม้ โดยคาดว่าจะเกิดฝนตกหนักครอบคลุมพื้นที่ปลูกกาแฟสำคัญของประเทศ และอาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิตใหม่

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนามระบุว่า ขณะนี้ไต้ฝุ่นอยู่ห่างจากเมืองกวีเญินไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 330 กิโลเมตร และคาดว่าจะขึ้นฝั่งช่วงค่ำวันที่ 6 พ.ย. หรือเช้าวันที่ 7 พ.ย. หลังสร้างความเสียหายอย่างหนักในฟิลิปปินส์

สำนักงานฯ คาดว่าพื้นที่ตั้งแต่ดานังถึงจังหวัดดั๊กลักอาจมีปริมาณฝนสะสมสูงสุดถึง 600 มม. จากไต้ฝุ่นคัลแมกีจนถึงวันที่ 7 พ.ย.

ขณะเดียวกัน ศูนย์เตือนภัยไต้ฝุ่นร่วมของสหรัฐฯ (JTWC) เผยว่า คัลแมกีกำลังทวีความรุนแรงในน่านน้ำอุ่นของทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะมีกำลังลมสูงสุด 204 กม./ชม. เทียบเท่าเฮอริเคนระดับ 3 ตามมาตรฐานแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน

แบรนดอน ฟ็อกซ์ นักอุตุนิยมวิทยาจาก Vaisala กล่าวเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) ว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้จะทำให้การเก็บเกี่ยวล่าช้า และอาจเกิดความเสียหายจากลมแรงและน้ำท่วม

ปัจจุบัน เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟของเวียดนามเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่เดือนต.ค. แต่ฝนที่คาดว่าจะตกหนักในภาคกลางตอนบนอาจทำลายต้นกาแฟและลดคุณภาพเมล็ด ทั้งนี้ เวียดนามเป็นผู้ผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และกำลังจะมีผลผลิตดีที่สุดในรอบ 4 ปี

อนึ่ง เวียดนามเผชิญพายุรุนแรงแล้ว 12 ลูกในปี 2568 คร่าชีวิตอย่างน้อย 241 คน และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากกว่า 53.8 ล้านล้านด่ง (ราว 6.62 หมื่นล้านบาท)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 พ.ย. 68)