MONO ร่วง 19.83% หลัง Q3/68 ขาดทุนแรงรับค่าใช้จ่ายบอล EPL-บ.ย่อยผิดนัดชำระหนี้ 220 ลบ.

เมื่อเวลา 10.01 น. MONO ร่วง 19.83% ลดลง 0.24 บาท มาที่ 0.97 บาท มูลค่าการซื้อขาย 31.38 ล้านบาท จากราคาเปิด 0.91 บาท ราคาสูงสุด 0.97 บาท ราคาต่ำสุด 0.89 บาท

บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า บมจ.โมโน เน็กซ์ [MONO] รายงาน ไตรมาส 3/68 ขาดทุนสุทธิ 154 ล้านบาท พลิกจากกำไร 16 ล้านบาท ในไตรมาส 2/68 และ ขาดทุนมากขึ้นจากไตรมาส 3/67 ที่ 38 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเริ่มต้นให้บริการถ่ายทอดฟุตบอล EPL

รายได้รวม ที่ 357 ล้านบาท หด -3.7% QoQ และ -12.9% YoY หลักๆมาจากรายได้สื่อโฆษณาทีวีซึ่งเป็นแนวโน้มปกติของอุตสาหกรรม ขณะที่รายได้บริการคอนเทนต์จาก Monomax และ GIGATV ทำได้ 212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +45.2% QoQ และ +13.4% YoY จากการเริ่มให้บริการถ่ายทอดฟุตบอลกลางเดือน ส.ค. ซึ่งจำนวนสมาชิกทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อัตรากำไรขั้นต้น หดจาก 32.3% ไตรมาสก่อนเป็น 11.1% จากต้นทุนค่าบริการแพล็ตฟอร์ม Monomax ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร พุ่งขึ้นเป็น 182 ล้านบาท เพิ่ม +77.6% QoQ และ +129.8% YoY จากค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์เพื่อเร่งขยายฐานสมาชิกดูฟุตบอล ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเร่งตัวขึ้นจาก 27.6% เป็น 51.0% ในช่วงแรกนี้

แม้การขาดทุนในไตรมาสแรกเป็นเรื่องที่ ผู้บริหารคาดการณ์ไว้แล้ว แต่การขาดทุนสูงถึง 154 ล้านบาท จน 9M25 ขาดทุน 130 ล้านบาท ทำให้ประมาณการกำไรปีนี้ 289 ลบ. ของเราสูงเกินไป เรามีแนวโน้มปรับประมาณการปีนี้ลง

ขณะที่ยอดสมาชิกผ่าน 1 ล้านรายแล้ว และเร่งตัวแรงในสัปดาห์ที่ 8 ถึง 8 หมื่นราย/ สัปดาห์(ศึกแดงเดือด+กวาดล้างเว็บเถื่อน+โปรลุ้นทริปดูบอล) แต่เรามองว่าสมมติฐาน 2.6 ล้านรายของเราไม่น่าเป็นไปได้(vs เป้า ผบห. 3.0 ล้าน) เราจึงปรับลงมาที่ 2.0 ล้านคน ซึ่งเป็นฐานที่ ผู้บริหารเชื่อว่าเป็นไปได้ ได้ราคาเหมาะสมใหม่ปีหน้าที่ 1.41 บาท/ หุ้น อิง P/E 11.2x ตามเดิม

“การขาดทุนแรงกว่าคาดทำให้เรามีแนวโน้มปรับประมาณการลง ขณะที่เป้าหมาย 3.0 ล้านรายของผู้บริหาร เรามองว่ามีความเป็นไปได้น้อยแล้ว ซึ่งบนสมมติฐานใหม่ของเรา 2.0 ล้านราย ก็ยังพอมี upside ให้เก็งกำไรได้อยู่อย่างไรก็ดีความเสี่ยงสำคัญคือ ส่วนของผู้ถือหุ้นได้ลดลงมาอีกครั้งเหลือ 298 ล้านบาท ทำให้จะขาดทุนหนัก ๆ แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว MONO จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงเท่านั้น”

นอกจากนี้ MONO เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการปรับผังรายการโดยมุ่งเน้นคอนเทนต์ด้าน Sport and Lifestyle และข่าวสาร เพื่อลดการพึ่งพาคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์จากสตูดิโอคอนเทนต์ชั้นนำในระยะยาว โดยบริษัทฯ ได้มีการเจรจาต่อรองกับเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์บางรายแต่ไม่บรรลุผล จนเป็นเหตุให้มีการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทย่อยได้ผิดนัดชำระหนี้อันเกิดจากสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อการค้ำประกัน ในการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์จากต่างประเทศ จึงเป็นเหตุการผิดนัดในมูลหนี้อื่นจำนวน 220 ล้านบาท (มีมูลค่าคิดเป็น 8% ของสินทรัพย์รวม) ส่งผลให้สถาบันการเงินมีสิทธิเรียกชำระคืนเงินกู้ยืมทั้งจำนวน จึงถือเป็นเหตุให้บริษัทย่อยผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงิน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสถาบันการเงิน เพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)