ปธ.เฟดแอตแลนตาประกาศเกษียณหลังครบวาระ คาดทนอิทธิพลทรัมป์แทรกแซงไม่ไหว

ราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อครบวาระในเดือนก.พ.ปีหน้า ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามเข้ามามีอิทธิพลในองค์กรเฟดมากขึ้น

การประกาศเกษียณของบอสติกถือเป็นการสูญเสียเจ้าหน้าที่เฟดสายเหยี่ยว (Hawkish) รายที่สองในรอบปีนี้ ท่ามกลางการถกเถียงกันภายในหมู่กรรมการเฟดว่าควรจะเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่หลังจากที่เฟดเริ่มผ่อนคลายนโยบายเมื่อเดือนก.ย. เนื่องจากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง

รายงานระบุว่า แม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่มีอำนาจแต่งตั้งประธานเฟดสาขาภูมิภาคโดยตรง แต่การแต่งตั้งต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด ซึ่งทรัมป์กำลังพยายามปรับโครงสร้างใหม่ ดังจะเห็นได้จากการที่เขาพยายามปลดลิซา คุก ออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเฟด รวมถึงเตรียมเสนอชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เมื่อวาระสิ้นสุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า

ขณะเดียวกัน ผู้ว่าการเฟดทั้งสามรายที่ทรัมป์แต่งตั้ง ต่างก็สนับสนุนให้มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยเฉพาะสตีเฟน มิแรน ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมคณะกรรมการเฟด 7 คน หลังการลาออกอย่างกะทันหันของเอเดรียนา คูเกลอร์ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน

คุช เดไซ โฆษกทำเนียบขาว แสดงความเห็นเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการประกาศเกษียณของบอสติกว่า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงกลางปี 2565 ปธน.ทรัมป์จึงเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ยแก่ผู้ซื้อบ้านและภาคธุรกิจในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ แม้บอสติกจะไม่ได้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ย แต่เขายังคงมีบทบาทสำคัญในการหารือเชิงนโยบายและช่วยกำหนดทิศทางการตัดสินใจของเฟดโดยรวม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)