
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐฯ คว่ำบาตรบุคคล 5 ราย และนิติบุคคล 3 แห่ง ที่มีฐานอยู่ในเมียนมาและไทย โดยระบุว่าทั้งหมดมีส่วนพัวพันกับการบังคับใช้แรงงานเพื่อหลอกลงทุนออนไลน์
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐฯ ยังได้ประกาศจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามศูนย์หลอกลวง (Scam Center Strike Force) ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่และอัยการจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ดำเนินการสืบสวน ขัดขวาง และดำเนินคดีกับศูนย์หลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงผู้นำของขบวนการเหล่านี้ โดยมีเมียนมา กัมพูชา และลาว เป็นเป้าหมายหลัก
หน่วยเฉพาะกิจแห่งนี้จะใช้มาตรการทั้งหมดที่รัฐบาลมี เพื่อสกัดกั้นศูนย์หลอกลวงในระดับสูงสุด ทั้งการคว่ำบาตร ยึดทรัพย์ และดำเนินคดีอาญา นอกจากนี้ ยังจะให้ความสำคัญกับการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ไม่ให้มิจฉาชีพนำไปใช้ พร้อมสนับสนุนและปกป้องเหยื่อชาวสหรัฐฯ ที่ถูกหลอกลวงด้วยการให้ความรู้และการชดใช้ค่าเสียหาย
สำหรับบุคคลและบริษัทเมียนมาที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรในรอบนี้ ได้แก่ กองกำลังกะเหรี่ยงคุณธรรมเพื่อประชาธิปไตย (Democratic Karen Benevolent Army หรือ DKBA) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเมียนมา พร้อมกับผู้นำระดับสูง 4 ราย ในข้อหาให้การสนับสนุนศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ในเมียนมาที่ใช้แผนหลอกลงทุนฉ้อโกงชาวอเมริกัน ขณะที่บริษัทเมียนมาอีกแห่งคือ Troth Star Company Limited (Troth Star)
ส่วนบุคคลและบริษัทในไทยที่ถูกคว่ำบาตรในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน คือ บริษัท ทรานส์-เอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก และนาย Chamu Sawang (จะมู สว่าง) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Yu Jianjun หรือ Moosawan Naija สัญชาติไทย ผู้เป็นกรรมการบริษัทแห่งนี้ โดยทางการสหรัฐฯ ระบุว่า นายจะมู สว่าง มีความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมจีน และทำงานร่วมกับ DKBA รวมถึงกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ในการจัดตั้งศูนย์หลอกลวงเหล่านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)





