กลาโหมจีนลั่น “ญี่ปุ่นจะแพ้ราบคาบ” หากยังเข้ามาจุ้นจ้านกรณีไต้หวัน

กระทรวงกลาโหมจีนแถลงวันนี้ (14 พ.ย.) ว่า ญี่ปุ่นจะประสบกับ “ความพ่ายแพ้ราบคาบ” จากกองทัพจีน หากหาญกล้าใช้กำลังเข้าแทรกแซงปัญหาไต้หวัน ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความรุนแรงทางวาทกรรม ตอบโต้ท่าทีของซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่มีต่อเกาะไต้หวัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.) ทาคาอิจิได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการรัฐสภาว่า การโจมตีทางทหารของจีนต่อไต้หวันอาจเป็น “สถานการณ์ที่คุกคามความอยู่รอด” สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้สิทธิป้องกันตนเองร่วม (collective self-defense)

ถ้อยแถลงของนายกฯ ญี่ปุ่นเกี่ยวกับไต้หวันได้จุดชนวนให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านอย่างรุนแรงจากรัฐบาลปักกิ่ง โดยเสวีย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีน ณ นครโอซากา ได้โพสต์ข้อความข่มขู่บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อวันเสาร์ว่า จะ “ตัดคอสกปรกทิ้งโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว” ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกลบออกไป

ทั้งนี้ จีนและไต้หวันปกครองแยกจากกันนับตั้งแต่ที่ทั้งสองฝ่ายถูกแบ่งแยกโดยสงครามกลางเมืองเมื่อปีพ.ศ. 2492 โดยจีนมองว่า ไต้หวันเป็นมณฑลที่แยกตัวออกไป และจะถูกรวมเข้ากับแผ่นดินใหญ่ด้วยการใช้กำลังหากจำเป็น นอกจากนี้ จีนยังมองว่าประเด็นเกี่ยวกับไต้หวันเป็น “กิจการภายใน” ของจีน และไม่ยอมให้ต่างชาติเข้าแทรกแซงอย่างเด็ดขาด ขณะที่รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธการกล่าวอ้างดังกล่าว และยืนยันว่าอนาคตของไต้หวันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น

เจียง บิน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ระบุว่า ถ้อยแถลงของทาคาอิจิเป็นสิ่งที่ขาดความรับผิดชอบและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

“หากฝ่ายญี่ปุ่นไม่ได้เรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ และยังเหิมเกริมที่จะเสี่ยง หรือถึงขั้นใช้กำลังเข้ายุ่งเกี่ยวในปัญหาไต้หวัน ก็จำต้องประสบกับความพ่ายแพ้ราบคาบ เมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพปลดแอกประชาชนผู้มีเจตจำนงแกร่งดุจเหล็กกล้า และจะต้องชดใช้ในราคาที่แสนแพง” เจียงกล่าวในแถลงการณ์

สื่อของทางการจีนยังได้ร่วมกระพือโหมสถานการณ์ ด้วยการตีพิมพ์บทบรรณาธิการและบทวิจารณ์อันเผ็ดร้อนหลายฉบับ เพื่อประณามทาคาอิจิ โดยหยิบยกปมบาดหมางจากประวัติศาสตร์สมัยสงครามของญี่ปุ่น และความอ่อนไหวอย่างที่สุดของจีนในทุกเรื่องที่พาดพิงถึงไต้หวัน

สงครามโลกครั้งที่ 2 และการรุกรานจีนของญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นก่อนหน้าในปี 2474 ยังคงเป็นต้นตอแห่งความบาดหมางระหว่างรัฐบาลจีนกับญี่ปุ่นตราบจนปัจจุบัน

อนึ่ง ไต้หวันตั้งอยู่ห่างจากอาณาเขตของญี่ปุ่นเพียง 110 กิโลเมตร และน่านน้ำโดยรอบยังเป็นเส้นทางการค้าทางทะเลที่สำคัญยิ่งยวดต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพอเมริกันนอกประเทศที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย

ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ NTV ของญี่ปุ่นรายงานในวันเดียวกันว่า สถานทูตจีนในกรุงโตเกียวได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงการออกนอกที่ตั้ง เนื่องจากหวั่นเกรงกระแสต่อต้านจีนที่อาจปะทุขึ้น

ในการแถลงข่าวประจำวัน มิโนรุ คิฮาระ โฆษกประจำสำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ย้ำจุดยืนของประเทศต่อไต้หวัน โดยกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลโตเกียวหวังให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการคลี่คลายอย่างสันติผ่านการเจรจา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ย. 68)