
ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้ ให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยลดอุปสรรคในการทำธุรกิจให้กับบริษัทต่าง ๆ ของเกาหลีใต้ หลังจากที่เขาได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศ เพื่อหารือมาตรการสืบเนื่องจากการเผยแพร่เอกสารข้อเท็จจริงร่วมว่าด้วยข้อตกลงการค้าและความมั่นคงทวิภาคีกับสหรัฐฯ
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นในวันอาทิตย์ (16 พ.ย.) สองวันหลังจากที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้เผยแพร่เอกสารร่วมว่าด้วยข้อตกลงที่ผู้นำสองฝ่ายบรรลุร่วมกันในการประชุมซัมมิตเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งรวมถึงแผนการลงทุนของเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแลกกับการลดภาษีศุลกากรจาก 25% เหลือ 15%
สำนักประธานาธิบดีเปิดเผยว่า ปธน.อีกล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า “บทบาทสำคัญของรัฐบาลคือ การสร้างความมั่นใจว่าบริษัทต่าง ๆ จะสามารถดำเนินกิจกรรมได้อย่างเสรีและสร้างสรรค์ทั่วโลก”
สำหรับผู้นำภาคธุรกิจที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย อี แจยอง ประธานบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) เช แทวอน ประธานเอสเค กรุ๊ป (SK Group) ชอง อึยซอน ประธานฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป (Hyundai Motor Group) และกู กวาง-โม ประธานแอลจี กรุ๊ป (LG Group) ตลอดจนผู้บริหารจากอีกหลายบริษัท เช่น เอชดี ฮุนได (HD Hyundai) และฮันฮวา (Hanwha)
ปธน.เกาหลีใต้กล่าวถึงผลลัพธ์ของการเจรจาเรื่องภาษีว่าเป็น “กระบวนการที่ยากลำบากมาก” และการเจรจาดังกล่าวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ท่ามกลางระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ยืนยันว่า รัฐบาลจัดการเรื่องนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
ทั้งนี้ ผู้นำเกาหลีใต้ขอให้บริษัทต่าง ๆ ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่อย่างรวดเร็ว และใช้สิ่งนี้เป็นโอกาส
“สิ่งที่สำคัญกว่าคืออนาคต ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าปากท้องของประชาชน และบริษัทต่าง ๆ คือหัวหอกในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ” ปธน.อีกล่าว พร้อมให้คำมั่นว่า จะจัดหามาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบ และสัญญาว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ
ขณะเดียวกัน ปธน.อีขอให้บริษัทต่าง ๆ สร้างความเชื่อมั่นว่าการลงทุนภายในประเทศจะยังคงแข็งแกร่ง โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 68)





