
บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2569 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 26 ต.ค. 2568 พร้อมกับเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 4 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่งผลให้ราคาหุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้นกว่า 5% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ (20 พ.ย.)
อินวิเดียเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 1.30 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.25 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 5.701 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.492 หมื่นล้านดอลลาร์
อินวิเดียระบุว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 65% สู่ระดับ 3.191 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.30 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากระดับ 1.931 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 78 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีงบการเงิน 2568
ทั้งนี้ อินวิเดียคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4/2569 จะอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.166 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต่างก็จับตาตัวเลขรายได้และการคาดการณ์รายได้ของอินวิเดียอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นสัญญาณที่สามารถบ่งชี้ถึงกระแสความเฟื่องฟูของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ส่วนรายได้จากธุรกิจศูนย์ข้อมูลซึ่งเป็นธุรกิจที่สำคัญที่สุดของอินวิเดียนั้น อยู่ที่ 5.12 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.909 หมื่นล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบเป็นรายปี
นอกจากนี้ อินวิเดียเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ทำการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ และจ่ายเงินปันผลมูลค่า 243 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3
เจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินวิเดีย กล่าวกับนักลงทุนในระหว่างการเผยแพร่ผลประกอบการครั้งนี้ว่า มีการพูดถึงภาวะฟองสบู่ AI กันมากมาย แต่จากมุมมองของอินวิเดียนั้น ทางบริษัทมองเห็นเรื่องจากแตกต่างออกไปมาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)





