
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.46 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.42 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน หลังตลาดคาดการณ์เรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสน้อยลง
“บาทอ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาคและตลาดโลก ระหว่างวันน่าจะแกว่งตัวแคบ ๆ ในกรอบ โดยคืนนี้ตลาดรอดูตัวเลข Non-farm เพื่อประเมินเรื่องโอกาสในการปรับดอกเบี้ยของเฟด” นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.35 – 32.55 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.13 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในรอบ 1 ปี จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 155.80/95 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1529 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1570 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.411 บาท/ดอลลาร์
- “พาณิชย์” ถกผู้บริหาร Otis McAllister ผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่สหรัฐฯ รับมือมาตรการภาษีทรัมป์ ให้ไทยก้าวสู่ Food Security Hub พร้อมชวนร่วมงานเจรจาการค้าต้นปี 69
- GCAP GOLD ประเมินราคาทองคำรอฟื้นตัว แนะนำกลยุทธ์ “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” บริเวณแนวรับ 4,010–3,990 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองไทยคาดอยู่ในกรอบ 61,500-61,800 บาท ยังคงจับตาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว
หลังภาวะชัตดาวน์ยืดเยื้อ รวมถึงท่าทีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสัญญาณนโยบายการเงิน - “บีโอไอ” เผยการลงทุนในไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยนักลงทุนไทยยังเป็นกำลังหลักยื่นคำขอรับการส่งเสริมสูงถึง 840 โครงการ มูลค่ารวม 447,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% YoY ตามยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ที่ผลักดันการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นวัตกรรม และการยกระดับทักษะแรงงาน โดย 5 กลุ่มศักยภาพหลักยังคงนำตลาดทั้งเกษตร-อาหาร ดิจิทัล พลังงานสะอาด และชิ้นส่วนยานยนต์
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีเอาไว้ที่ระดับ 3% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเอาไว้ที่ระดับ 3.5% ในวันนี้ (20 พ.ย.) ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
- รายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ต.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลกระทบต่อภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟด โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% เป็นเวลากว่า 4 ปี
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการขยายตัว 4.2% ในไตรมาส 3/2568 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.5% ในไตรมาส 1 และขยายตัว 3.8% ในไตรมาส 2
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ลดลง 23.8% สู่ระดับ 5.96 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.13 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 7.82 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (19 พ.ย.) หลังจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดมีความกังวลว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลกระทบต่อภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ (20 พ.ย.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (19 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ต.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการเผยแพร่หลังตลาดทองคำปิดทำการ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ (20 พ.ย.) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนหน้า
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย., ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.และต.ค.จาก Conference Board
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 55,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 4.3%
- สำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าจะไม่เผยแพร่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.แบบแยกต่างหาก แต่จะรวมตัวเลขจ้างงานของเดือนต.ค.เข้ากับรายงานของเดือนพ.ย. เนื่องจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลได้ส่งผลกระทบต่อการรวบรวมข้อมูลสำคัญ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้เฟดมีข้อมูลไม่มากนักในการประเมินภาวะตลาดแรงงานในการประชุมเดือนธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)





