
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นำคณะ เดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามงานสำคัญของรัฐบาล ทั้งการแก้ไขปัญหาอุทกภัย การปราบปรามยาเสพติด และการทุจริตคอร์รัปชัน
โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการเพิ่มศักยภาพการรองรับและการไหลของแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันอุทกภัยเขตเมืองเชียงใหม่ ระยะเร่งด่วน บริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ริมแม่น้ำปิง (เชิงสะพานเม็งราย) อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งเป็นสักขีพยานในโอกาสผู้บัญชาการทหารสูงสุดส่งมอบโครงการฯ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนนำคณะปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียนและปลาสวายจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเชียงใหม่รวมทั้งหมด 100,000 ตัวลงในแม่น้ำปิง หลังดำเนินโครงการขุดลอกเพื่อแก้ไขปัญหาการตื้นเขินของลำน้ำ ป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝนเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของแม่น้ำปิงให้กลับมาสวยงามและเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด “น้ำคือชีวิต เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน”
การขุดลอกแม่น้ำปิงเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเกิดอุทกภัยอย่างหนักในปี 2567 ทำให้จังหวัดต้องเร่งดำเนินการขุดลอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและลดความเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง โครงการดังกล่าวมีงบประมาณ 355 ล้านบาท ดำเนินการโดย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ผ่านสำนักงานพัฒนาภาค 3 ซึ่งการขุดลอกนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความลึกและความกว้างของแม่น้ำ โดยมีบางส่วนที่เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น การขุดลอกลำเหมืองพญาคำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำปิง โดยการขุดลอกครั้งนี้ระยะทางรวม 41 กม. ครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่ ต.สันโป่ง อ.แม่ริม ผ่านเขต อ.เมือง ลงไปจนถึง ต.สบแม่ข่า อ.หางดง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะแถลงผลการดำเนินคดีกับขบวนการนำคนต่างด้าวมาสวมตัวและทำหลักฐานเท็จในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และผลปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนเดินทางว่า วันนี้จะไปติดตามเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีการจับกุมเรื่องการลักลอบออกบัตรประชาชน และให้สัญชาติกับคนต่างด้าว และไปดูเรื่องของการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ซึ่งเป็นโครงการตั้งแต่สมัยตนเป็น รมว.มหาดไทย ที่มีความคืบหน้าแล้ว และหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่กันได้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะการจับยาเสพติด 10 กว่าล้านเม็ด ซึ่งการดำเนินการก้าวหน้าแล้วเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการปราบปรามการทุจริตที่มีการแจ้งความดำเนินคดี และให้ออกจากราชการไว้ก่อนเป็นไปตามที่รัฐบาลมีนโยบายไว้ ทั้งนี้ตนจะดูแลงานราชการก่อน ส่วนงานการเมืองมีคนช่วยดูแลอยู่แล้ว
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางไปตรวจราชการครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานด้านความมั่นคงของชาติ ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการป้องกันอุทกภัย และการดูแลช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งล่าสุด 18 พฤศจิกายน 2568 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้มีการศึกษา หารือ แนวทางการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)




