เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อ่วม ฝนตกหนักต่อเนื่องเสี่ยงน้ำท่วมรุนแรงขึ้น

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรและทำให้นักท่องเที่ยวตกค้าง ขณะที่คาดว่าฝนจะตกลงมาอีกจนถึงต้นสัปดาห์หน้า โดยพื้นที่ประสบภัยตั้งแต่เวียดนามไปจนถึงภาคใต้ของไทย มีปริมาณน้ำฝนสูงกว่าปกติอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเดือนนี้จนถึงวันที่ 23 พ.ย. โดยเพิ่มความเสี่ยงให้สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากพื้นดินที่อิ่มน้ำแล้วจะไม่สามารถดูดซับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเพิ่มเติมได้

แม้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นฤดูฝนที่เกิดจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ปริมาณฝนที่ตกลงมาล่าสุดนั้นมีความรุนแรงและส่งผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่ศูนย์พยากรณ์สภาพอากาศของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า พื้นที่ประสบภัย รวมถึงฟิลิปปินส์ ซึ่งยังคงฟื้นตัวจากพายุไต้ฝุ่นหลายลูก จะยังคงมีสภาพอากาศที่เปียกชื้นเกินกว่าค่าเฉลี่ยต่อเนื่องไปจนถึงสัปดาห์หน้า

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ของไทยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ราย และส่งผลกระทบต่อครัวเรือนต่าง ๆ กว่า 800,000 ครัวเรือน โดยพื้นที่สำคัญในการผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันถูกน้ำท่วมอย่างหนัก ขณะประชาชนในคาบสมุทรมลายูต้องอพยพมากกว่า 16,000 คน และน้ำท่วมในเวียดนามตอนกลางได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 90 ราย

ขณะเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามระบุว่า มีบ้านเรือนกว่า 1,000 หลังถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย นาข้าวและพื้นที่เพาะปลูกพืชผลอื่น ๆ กว่า 80,000 เฮกตาร์ได้รับความเสียหาย ขณะที่ปศุสัตว์รวมถึงสัตว์ปีกกว่า 3.3 ล้านตัวล้มตายหรือถูกน้ำพัดพาไป นอกจากนี้ น้ำท่วมยังทำให้การเก็บเกี่ยวในจังหวัดดั๊กลักซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟใหญ่ที่สุดของประเทศต้องล่าช้าออกไป

ทั้งนี้ ปฏิบัติการกู้ภัยและการฟื้นฟูในเวียดนามตอนกลางยังคงดำเนินต่อไปใน 4 จังหวัด โดยรัฐบาลเวียดนามได้ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจจากน้ำท่วมรุนแรงครั้งนี้ไว้ที่กว่า 13 ล้านล้านด่ง (493 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 68)