
ดอยซ์แบงก์เปิดเผยแนวโน้มราคาทองแดงโลกปี 2569 โดยบ่งชี้ว่าตลาดทองแดงยังคงตึงตัวจากอุปทานที่จำกัดและการควบรวมอุตสาหกรรมที่เร่งตัวขึ้น โดยประเมินว่า ปริมาณทองแดงจากเหมืองจะลดลงในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 1% ในปี 2569 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะตลาดที่ขาดแคลน
ดอยซ์แบงก์ปรับคาดการณ์ราคาทองแดงปี 2569 ขึ้นสู่ 10,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยคาดว่าราคาสูงสุดจะเกิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในช่วงครึ่งปีแรก และระบุว่า ปัญหาอุปทานรุนแรงทำให้ราคาพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
แม้ความต้องการทองแดงจากจีนชะลอตัวในครึ่งหลังของปี 2568 และมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่การลงทุนที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดอยซ์แบงก์ได้เน้นย้ำว่า หากเศรษฐกิจโลกยังไม่ชะลอตัว ระบบการตั้งราคาทองแดงแบบจูงใจเพื่อกระตุ้นการผลิตน่าจะยังคงดำเนินต่อไป
ความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกที่เติบโตเร็วกว่าการขยายตัวของ GDP ในปี 2567 ถูกชี้ว่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะสนับสนุนการเติบโตของความต้องการทองแดงผ่านแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าและระบบดิจิทัล
นอกจากนี้ ดอยซ์แบงก์ยังระบุว่า อัตราการอนุมัติโครงการผลิตทองแดงใหม่ยังต่ำกว่าระดับที่จำเป็นในการตอบสนองความต้องการในปี 2569
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 68)





