
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 พ.ย.) ว่าเขาจะไม่เชิญแอฟริกาใต้เข้าร่วมประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ปีหน้าที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา พร้อมระงับความช่วยเหลือทั้งหมดแก่แอฟริกาใต้
“ผมสั่งการไม่ให้เชิญแอฟริกาใต้ร่วมประชุม G20 ประจำปี 2569 ซึ่งจะจัดขึ้นที่มหานครไมอามี รัฐฟลอริดา ในปีหน้า” ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทรูธโซเชียล (Truth Social)
ทรัมป์ระบุด้วยว่าสหรัฐฯ จะ “หยุดจ่ายเงินและงดเงินอุดหนุนแอฟริกาใต้ทั้งหมด มีผลทันที”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ที่ผ่านมา ทรัมป์อ้างบ่อยครั้งว่าคนผิวขาวในแอฟริกาใต้ถูกฆ่าและถูกยึดไร่นาโดยพลการ ซึ่งรัฐบาลแอฟริกาใต้ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอดทั้งปี
เมื่อวันพุธ ทรัมป์ยังวิจารณ์แอฟริกาใต้ที่ไม่ยอมส่งมอบตำแหน่งประธาน G20 ให้ทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ในพิธีปิดการประชุมเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ซึ่งแอฟริกาใต้ชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า การให้ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ส่งมอบตำแหน่งแก่เจ้าหน้าที่ระดับล่างของสหรัฐฯ เป็นเรื่องหยามเกียรติ
ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับแอฟริกาใต้รุนแรงขึ้นตั้งแต่ทรัมป์กลับมารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือนม.ค. โดยเดือนก.พ. ทรัมป์เซ็นคำสั่งระงับความช่วยเหลือแก่แอฟริกาใต้ โดยอ้างว่าพ.ร.บ. การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ (Expropriation Act) หรือกฎหมายปฏิรูปที่ดินที่ปธน.รามาโฟซาลงนามเมื่อเดือนม.ค. “เลือกปฏิบัติ” ต่อประชากรผิวขาว
รัฐบาลแอฟริกาใต้โต้กลับว่าการระงับความช่วยเหลือนั้น “ไม่มีมูลความจริง และไม่เข้าใจประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดลึกล้ำของแอฟริกาใต้ในยุคล่าอาณานิคมและการแบ่งแยกสีผิว (Apartheid)”
เดือนก.พ. มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โพสต์ผ่านเอ็กซ์ว่า เขาจะคว่ำบาตรการประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก
ต่อมาในเดือนมี.ค. สหรัฐฯ ขับอิบราฮิม ราซูล เอกอัครราชทูตแอฟริกาใต้พ้นประเทศ ทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่ลงอีก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากราซูลวิจารณ์ทรัมป์
เดือนพ.ค. ทรัมป์เผชิญหน้ากับปธน.รามาโฟซาที่เยือนทำเนียบขาวด้วยทฤษฎีสมคบคิดเรื่อง “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนขาว” (White Genocide) ซึ่งรามาโฟซาปฏิเสธเสียงแข็ง
ในขณะนั้น รามาโฟซาเดินทางไปวอชิงตันเพื่อเจรจาการค้าและลดความตึงเครียด เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาของทรัมป์ระหว่างหารือ โดยแย้งว่าคนขาวไม่ได้หนีออกนอกประเทศเพราะนโยบายเหยียดเชื้อชาติ พร้อมชี้ว่าเหยื่ออาชญากรรมส่วนใหญ่คือคนผิวดำ
อนึ่ง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ร่วมประชุมสุดยอด G20 ครั้งนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ย. 68)





