
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Prompt The Future พลังงานจะสร้างโอกาสทางการตลาดและธุรกิจใหม่ให้ไทยได้อย่างไร” กล่าวว่า ในส่วนของภาคพลังงาน กระทรวงพลังงานกำลังเร่งเดินหน้ามาตรการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด 3 มาตรการหลักในกว่า 10 โครงการ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงและรองรับเป้าหมาย Net Zero 2050 ของประเทศโดยโครงการสำคัญที่กระทรวงพลังงานได้เตรียมดำเนิการ จะเน้นไปที่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน โครงการโซลาร์เพื่อเกษตรกรซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและเกษตรกรทั่วประเทศ รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้แก่โครงการโซลาร์ Rooftop ที่ให้ครัวเรือนที่ติดตั้งโซลาร์บนหลังคา นำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 200,000 บาท
นอกจากนั้น มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า ปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าให้รองรับ Data Center ที่คาดว่าจะมีการลงทุนตามมาจำนวนมาก โดยการดำเนินการนี้จะเน้นการใช้รายได้จากโครงการพลังงานในอนาคตเข้ากองทุนลงทุน และใช้ Infrastructure Fund เพื่อให้รัฐวิสาหกิจลงทุนจาก Future Income ลดภาระหนี้สาธารณะ และเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน เพื่อเพิ่มความโปร่งใส โดยไม่เพิ่มภาระหนี้รัฐ รวมทั้งการเร่งจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ปลดล็อกให้ไฮโดรเจนและแอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิงในอนาคต การศึกษาเทคโนโลยี SMR และพัฒนาการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS)
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า จะสามารถกระตุ้นการลงทุนได้กว่า 1,000,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 29,000 อัตรา และสามารถลดการปล่อยมลพิษได้ถึง 10 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
“วันนี้ ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญ นโยบายที่รัฐบาลขับเคลื่อนอยู่คือเครื่องมือสำคัญในการฝ่าความท้าทาย พลังงานที่สะอาดและเข้าถึงง่าย คือพลังสำคัญที่ทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้มากขึ้น ทั้งในตลาดในประเทศและตลาดโลก เช่น CBAM และ ESG ผมเชื่อมั่นว่า หากภาครัฐ ภาคเอกชน และคนไทยทุกภาคส่วน เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ประเทศไทยจะก้าวผ่านความท้าทายครั้งนี้ได้ และเปลี่ยนความเปลี่ยนแปลงของโลกให้เป็นโอกาสใหม่ของประเทศได้” นายอรรถพล กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 68)




