
วันนี้ (2 ธ.ค.) ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) เปิดตัว “Galaxy Z TriFold” สมาร์ตโฟนจอพับหลายทบรุ่นแรกของบริษัทอย่างเป็นทางการ หวังตอกย้ำความเป็นผู้นำและเสริมแกร่งในตลาดที่กำลังถูกคู่แข่งจากจีนตีตื้นขึ้นมา แม้นักวิเคราะห์มองว่าราคาสูงและความท้าทายในการผลิตจะทำให้รุ่นนี้ยังเป็นเพียงสินค้าเฉพาะกลุ่มก็ตาม
Galaxy Z TriFold โดดเด่นด้วยหน้าจอ 3 ส่วนที่กางออกได้กว้างถึง 10 นิ้ว (253.1 มม.) ซึ่งใหญ่กว่ารุ่น Galaxy Z Fold 7 ถึงเกือบ 25% มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มเรือธง และระบบชาร์จเร็วพิเศษที่ชาร์จแบตจนแตะระดับ 50% ได้ภายใน 30 นาที โดยเคาะราคาจำหน่ายที่ประมาณ 3.59 ล้านวอน (ราว 78,000 บาท)
อเล็กซ์ ลิม รองประธานบริหารของซัมซุงระบุว่า ต้นทุนชิปและชิ้นส่วนที่พุ่งสูงขึ้นทำให้การตั้งราคาเป็นเรื่องยาก รุ่นนี้จึงเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเทคโนโลยีใหม่จริง ๆ มากกว่าจะเน้นยอดขายถล่มทลาย
“ผมเชื่อว่าตลาดมือถือจอพับจะเติบโตต่อไป และโดยเฉพาะรุ่น TriFold อาจเป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้ตลาดกลุ่มนี้โตแบบก้าวกระโดด” ลิมกล่าว
สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย จะเริ่มที่เกาหลีใต้เป็นที่แรกในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ตามด้วยจีน สิงคโปร์ ไต้หวัน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภายในปีนี้ ส่วนสหรัฐฯ คาดว่าจะเริ่มขายไตรมาสแรกของปีหน้า
มุมมองจากนักวิเคราะห์เชื่อว่าการเปิดตัวครั้งนี้เป็นการแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีมากกว่าหวังยอดขาย
ริว ยัง-โฮ จาก NH Investment & Securities ให้ความเห็นว่า “Trifold เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรก และเป็นครั้งแรกที่ทำตลาดดีไซน์สามพับ จึงยากที่ซัมซุงจะเน้นผลิตจำนวนมากในช่วงนี้” เขายังเสริมว่าแม้ซัมซุงมีประสบการณ์จากรุ่นจอพับปกติมาถึง 7 รุ่น แต่รุ่น 3 พับอาจยังต้องรอการพิสูจน์เรื่องความทนทาน
ทั้งนี้ ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับกำลังแข่งขันดุเดือด โดยก่อนหน้านี้หัวเว่ย (Huawei) เพิ่งเปิดตัวรุ่นพับสามทบไปเมื่อเดือนก.ย. และคาดว่าแอปเปิ้ล (Apple) จะส่งรุ่นจอพับลงตลาดในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงและการผลิตที่ซับซ้อนยังเป็นปัจจัยฉุดการเติบโต
ข้อมูลจาก Counterpoint Research คาดว่า ปีนี้มือถือจอพับจะมีสัดส่วนไม่ถึง 2% ของตลาดรวม และขยับขึ้นไปเกือบ 3% ในปี 2570 โดยซัมซุงยังคงรักษาความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 64% ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา และคาดว่าตลาดกลุ่มนี้จะโตถึง 14% ในปีนี้ ก่อนจะขยายตัวระดับ 30% ในช่วงปี 2569-2570 เมื่อผู้เล่นรายใหม่อย่างแอปเปิ้ลเข้าสู่ตลาด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 68)





