ทองปิดบวก $11.70 เก็งเฟดหั่นดอกเบี้ยหลังจ้างงานซบเซา

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (3 ธ.ค.) หลังมีรายงานว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในสัปดาห์หน้า

  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 4,232.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ลดลง 32,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 40,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 47,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบมากที่สุด

ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ และทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 89% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ให้น้ำหนัก 87%

นักวิเคราะห์จาก RJO Futures กล่าวว่า นอกเหนือจากข้อมูลแรงงานของ ADP แล้ว การที่ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

นอกจากนี้ นักลงทุนติดตามความคืบหน้าในการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยล่าสุดมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกเลิกการสัมภาษณ์ผู้เข้ารอบสุดท้าย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาวและเป็นที่ปรึกษาของทรัมป์ จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานเฟดแทนเจอโรม พาวเวล ซึ่งจะหมดวาระในเดือนพ.ค.ปีหน้า โดยแฮสเซตต์มีจุดยืนสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 68)