ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสบดี (4 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนชั่งน้ำหนักรายงานตลาดแรงงานและข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากความหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,850.94 จุด ลดลง 31.96 จุด หรือ -0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,857.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.40 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,505.14 จุด เพิ่มขึ้น 51.04 จุด หรือ +0.22%
หุ้น Amazon.com ลดลง 1.4% ซึ่งกดดันดัชนี S&P500 และจำกัดการปรับตัวขึ้นของตลาด หลังบริษัทเปิดเผยว่ากำลังหารือกับบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ เกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคตก่อนสัญญาจะหมดอายุในปีหน้า
ขณะที่การเปิดเผยรายงานการจ้างงานเดือนพ.ย.ถูกเลื่อนออกไปหลังการประชุมของเฟดในเดือนธ.ค.นี้ เนื่องจากการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ นักลงทุนจึงต้องอาศัยข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนภาพตลาดแรงงานแบบผสมผสาน ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐล่าช้ากว่าเดิม
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี แม้นักวิเคราะห์มองว่าการลดลงส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากช่วงวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
รายงานของเฟดสาขาชิคาโกประเมินว่าอัตราว่างงานในเดือนพ.ย. ทรงตัวใกล้ระดับ 4.4%
ตลาดกำลังให้น้ำหนักความเป็นไปได้ 87% ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.นี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 68.6% เมื่อหนึ่งเดือนก่อน โดยอ้างอิงจาก FedWatch Tool ของ CME
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า นักลงทุนกำลังรอดูว่าเฟดจะตีความข้อมูลเศรษฐกิจอย่างไร เพราะความเห็นล่าสุดของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดค่อนข้างส่งสัญญาณคุมเข้ม แต่ตลาดก็ยังคาดว่าการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นเต็มที่ เขากล่าวว่า ตัวชี้วัดสำคัญที่สุดคือรายงานการจ้างงาน ซึ่งยังไม่มีข้อมูลล่าสุด และจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ทิศทางนโยบายดอกเบี้ยในอนาคตปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 0.5% หลังจากมีการปรับลดตัวเลขเดือนส.ค. เหลือแค่เพิ่มขึ้น 1.3% โดยภาคการผลิตยังถูกกดดันจากผลกระทบของมาตรการภาษี
หุ้น Salesforce พุ่งขึ้น 3.7% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และกำไรปี 2569 โดยคาดว่าธุรกิจแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับองค์กรจะเติบโตแข็งแกร่ง
หุ้น Meta Platforms พุ่งขึ้น 3.4% และเป็นหนึ่งในหุ้นที่ช่วยหนุน S&P หลังมีรายงานว่า บริษัทเตรียมปรับลดงบประมาณด้าน Metaverse ลงมากถึง 30%
ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานเป็นหนึ่งในกลุ่มที่อ่อนแอที่สุด โดยถูกกดดันจากหุ้น Kroger ซึ่งร่วงลง 4.6% หลังบริษัทปรับลดกรอบคาดการณ์ยอดขายประจำปีและรายงานยอดขายไตรมาสล่าสุดต่ำกว่าคาด
ในทางกลับกันหุ้น Dollar General พุ่งขึ้น 14% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรประจำปี
หุ้น Snowflake ร่วงลง 11.4% หลังคาดการณ์รายได้สินค้าในไตรมาส 4 ต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะเติบโตมากกว่านี้
หุ้น Hormel Foods พุ่งขึ้น 3.8% หลังผู้ผลิตเนยถั่ว Skippy คาดการณ์กำไรประจำปีดีกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ธ.ค. 68)
