นายกฯ จีนเตือนมาตรการภาษีส่งผลกระทบหนักปีนี้ สะเทือนเศรษฐกิจโลก

หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ระบุว่า ผลกระทบที่สร้างความเสียหายต่อทั้งสองฝ่ายจากมาตรการภาษีศุลกากรเริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้นในปีนี้ โดยเขากล่าวระหว่างการประชุม “1+10 Dialogue” ซึ่งจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งและมีผู้บริหารระดับสูงจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), องค์การการค้าโลก (WTO) และธนาคารโลกเข้าร่วม

การประชุมครั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นเวทีที่หลี่หยิบยกประเด็นความจำเป็นในการปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลเศรษฐกิจโลกให้ทันต่อสถานการณ์ เนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่เพิ่มขึ้น แม้เขาไม่ได้เอ่ยถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยตรงก็ตาม

ก่อนหน้าการกล่าวสุนทรพจน์หนึ่งวัน ข้อมูลการค้าของจีนเมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ระบุว่า ประเทศจีนมีดุลการค้าเกินดุลมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ย.เป็นครั้งแรก โดยบรรดานักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีของทรัมป์ที่ทำให้ทิศทางการส่งออกจากเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกเบี่ยงไปยังตลาดอื่น ๆ และสร้างแรงกดดันต่อภาคการผลิตของประเทศคู่ค้า

หลี่กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปี ภัยคุกคามจากมาตรการภาษีศุลกากรได้ปกคลุมบรรยากาศเศรษฐกิจโลก พร้อมระบุว่าปัญญาประดิษฐ์กำลังก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญของการค้า โดยโมเดลของจีนอย่าง ดีปซีค (DeepSeek) ถูกมองว่าเป็นแรงขับเคลื่อนในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมดั้งเดิมทั่วโลก และช่วยผลักดันการเติบโตในภาคส่วนใหม่ ๆ เช่น หุ่นยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 68)