KTC ทุ่มงบปรับระบบครั้งใหญ่ ตั้งเป้าปี 69 เดินเกมระวังคุม NPL ต่ำ 2% ชู Digital-AI ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ยุคใหม่

นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย [KTC] กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 69 คาดยังเติบโตต่อเนื่องจากปี 68 แม้สภาพอุตสาหกรรมยังมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ บริษัทจึงมุ่งเน้นตั้งเป้าการเติบโตอย่างระมัดระวัง ควบคู่กับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ควบคุมค่าใช้จ่าย และรักษาความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอ พร้อมรักษาอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio) ไม่เกิน 2% ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 68 เชื่อว่ากำไรโตต่อเนื่องจากปี 67 ที่ 7,437.16 ล้านบาท

สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจในปี 69 คาดว่าพอร์ตสินเชื่อรวมจะขยายตัว 1-2% การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโต 5% และเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ 250,000 ราย ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล “เคทีซี พราว” และ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ตั้งเป้าผ่อนสินเชื่อเติบโต 2% โดยเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพและเพิ่มสมาชิกใหม่ 110,000 ราย

พร้อมทั้งมีแผนระดมเงินกู้ยืมระยะยาวประมาณ 12,000 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ การลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรองรับหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดในปีหน้าราว 16,000 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คาดว่าต้นทุนทางการเงิน ณ สิ้นปี 69 จะต่ำกว่าสิ้นปี 68 ประมาณ 0.15-0.20%

ในปีนี้คาดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตราว 4% ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10% เนื่องจากสภาวะตลาดไม่เอื้อ อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าเติบโตกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตเติบโตต่ำกว่า 1% ขณะที่ปี 69 ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายบัตรเครดิตอย่าง Conservative ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

1) เสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตสมาชิกคุณภาพ ยกระดับผลิตภัณฑ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการขยายฐานสมาชิกผ่านช่องทางดิจิทัล พร้อมนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กิน ช้อป เที่ยว รวมถึงหมวดที่สอดรับกับเทรนด์ที่ลูกค้าให้ความสนใจ เช่น หมวดการดูแลสุขภาพ และ Healthcare

2) ต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกัน (Insurance Brokerage) ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและวินาศภัย เพิ่มทางเลือกและความคุ้มค่าให้สมาชิก รวมถึงสร้างรายได้ใหม่จากผลิตภัณฑ์ประกันบนช่องทางบัตรเครดิต โดยในปี 68 มียอดใช้จ่ายผลิตภัณฑ์ประกัน บนบัตรเครดิตโต 10% ขณะที่ปี 69 ที่จะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันมากขึ้นคาดว่ายอดใช้จ่ายส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 12 – 13%

3) มุ่งสร้างการเติบโตร่วมกับธนาคารกรุงไทยในหลายมิติ โดยเน้น 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มลูกค้า Wealth ยกระดับสิทธิพิเศษและบริการที่ครอบคลุมกว่าเดิม กลุ่ม SME สร้างช่องทางการขยายโอกาสให้พันธมิตรร้านค้า บน e-marketplace “KTC U SHOP” ซึ่งเตรียมรีแบรนด์เป็น “KTC MALL” และกลุ่ม Gen Z เจาะกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย เพื่อสร้างฐานสมาชิกใหม่ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นกำลังซื้อ

4) ใช้ Digital และ AI ขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาด เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้า “ง่าย เร็ว ไร้รอยต่อ” และเสนอสิทธิประโยชน์เฉพาะบุคคลได้อย่างแม่นยำและครบวงจร

นางพิทยา กล่าวอีกว่า KTC เดินหน้าพัฒนาด้านไอทีครั้งใหญ่ โดยเปลี่ยนระบบการชำระเงินเดิม สู่ระบบใหม่ที่ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งที่ปรับขนาดได้ (Scalable) ตามความเติบโตของธุรกิจและยืดหยุ่น (Resilient) ต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อการปรับใช้และจัดการที่รวดเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการได้ทันที ส่งผลให้เกิดประโยชน์กับสมาชิก ร้านค้าและเพื่อนคู่ค้าในหลายมิติ พัฒนาการบริการ ยกระดับความปลอดภัยของข้อมูลตามมาตรฐานใหม่ ISO/IEC 27001:2022 ลดต้นทุนในการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ

KTC จะรวบรวมข้อมูลสมาชิกทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ แอปพลิเคชันและโซเชียลมีเดียให้ครบวงจรขึ้น ผ่าน Customer Data Platform (CDP) ในระบบเดียวเพื่อช่วยให้ทำการตลาดเฉพาะกลุ่มได้แม่นยำขึ้น ยกระดับความปลอดภัยในการบริหารจัดการด้านข้อมูลสมาชิก ทำให้กระบวนการทำงานภายในรวดเร็วขึ้น เชื่อว่าการลงทุนเทคโนโลยีครั้งนี้จะช่วยเร่งเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน คุมพอร์ตโตอย่างมีคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแผนการย้ายระบบการชำระเงินเดิมมีความล่าช้าจากกำหนดการเดิมที่คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงไตรมาส 3/68 หรือไตรมาส 4/68 การเปลี่ยนแปลงระบบมีความซับซ้อน และต้องทำให้มั่นใจว่าต้องเป็นระบบที่ดีที่สุดในระยะยาว ช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น ลดต้นทุนได้มากขึ้น ระบบใหม่ตั้งเป้าว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 1/69

ด้านธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 68 ยังสามารถเติบโตได้ แม้สถาบันการเงินจะเข้มงวด ซึ่งยังเป็นความท้าทายต่อเนื่องมายังปี 69 ซึ่งบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโต 2% ขณะที่อุตสาหกรรม -2% YTD โดยบัตรกดเงินสด เคทีซี พราว จะใช้ 4 กลยุทธ์การตลาดในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่

1) ปรับโฉมการสมัครออนไลน์ E-Application ให้อยู่บนแอป KTC Mobile เพื่อความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถทำการสมัคร และรู้ผลอนุมัติไวใน 30 นาที

2) ขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่านพันธมิตร และจุดขายที่มีดีมานด์สูงกว่า 2,000 ร้านค้า สแกนสมัครได้ที่หน้าร้าน อนุมัติ และรับสินค้าได้ทันที รวมถึงความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยผ่านฐานข้อมูล Payroll

3) ดูแลสมาชิกกว่า 700,000 รายด้วยสิทธิพิเศษ ทั้ง “รูด–โอน–กด–ผ่อน” เพื่อรองรับพฤติกรรมทุกไลฟ์สไตล์ และเดินหน้าโครงการ “เคลียร์หนี้” เพื่อส่งเสริมวินัยการชำระเงิน

4) ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ผ่านโปรโมชันผ่อนสินค้าด้วยดอกเบี้ย 0% นานถึง 24 เดือน

สำหรับ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” จะใช้กลยุทธ์ในการขยายฐานสมาชิกผ่านธนาคารกรุงไทยเป็นหลัก โดยปรับโฉมผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งในปี 69 คาดว่าจะมี New booking เข้ามาเติมเต็มพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลราว 2.4 พันล้านบาท

นางพิทยา กล่าวว่า โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ KTC เข้าร่วมจะโอนหนี้ด้อยคุณภาพที่ค้างชำระเกิน 90 วัน ไม่เกิน 100,000 บาท/ราย ไปขายให้กับ AMC จะทำให้ NPL ของ KTC ลดลง แต่ตัวเลขที่แท้จริงของยอดหนี้ที่จะมีการโอนจะปรากฏชัดเจนช่วงกลางเดือนม.ค.69

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 68)