
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยตัวเลขสถิติของปี 68 สภาวะตลาดหุ้นไทยแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2567 โดยดัชนีและมูลค่าการระดมทุนหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางการเปลี่ยนทิศทางของเงินทุนต่างชาติ
ดัชนีตลาดและมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Cap) การปรับฐานของดัชนีในปี 68 มีความรุนแรงกว่าปีก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดย
SET Index สิ้นปี 67 ปิดที่ 1,400.21 จุด แต่ข้อมูลล่าสุดในปี 68 ดัชนีดิ่งลงมาปิดที่ 1,259.67 จุด (ลดลงถึง -10.04%) ขณะที่ Market Cap รวม มูลค่าตลาด SET หดตัวลงจากประมาณ 17.94 ล้านล้านบาท ในปี 67 เหลือเพียง 15.86 ล้านล้านบาทในปี 68 ซึ่งสะท้อนถึงมูลค่าความมั่งคั่งที่หายไปกว่า 2 ล้านล้านบาทภายในปีเดียว
ขณะที่ P/E Ratio ของ SET ลดลงจาก 19.33 เท่าในปี 67 มาอยู่ที่ 15.37 เท่าในปี 68 สะท้อนว่าราคาหุ้นไทยเริ่มถูกลงและเข้าใกล้พื้นฐานมากขึ้น ส่วน Dividend Yield อัตราปันผลเฉลี่ยของ SET เพิ่มขึ้นจาก 3.23% ในปี 67 มาอยู่ที่ 3.73% ในปี 68 และในตลาด mai อยู่ที่ 4.02%
สถิติหุ้น IPO มีสัญญาณการระดมทุนซบเซาจากความเชื่อมั่นในตลาดแรก (Primary Market) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี โดยจำนวนบริษัทเข้าใหม่ในปี 68 มีบริษัท IPO เพียง 18 บริษัท แบ่งเป็น SET 6 บริษัท และ mai 12 บริษัท ลดลงจากช่วงปี 67 ที่มีความคึกคักมากกว่า โดยมีจำนวนรวม 36 บริษัท แบ่งเป็น SET 17 บริษัท และ mai 19 บริษัท
จากตัวเลขล่าสุด นักลงทุนต่างชาติในปี 68 มียอดขายสุทธิสูงถึงกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการไหลออกที่รุนแรงต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนรายย่อยในประเทศยังคงเป็นกลุ่มเดียวที่เข้ามาช่วยพยุงตลาด โดยมียอดซื้อสุทธิในปี 68 สูงถึงกว่า 1.5 แสนล้านบาทหลังจากราคาหุ้นส่วนใหญ่ลดต่ำลงมามาก และการที่จำนวนบัญชีซื้อขายยังคงเติบโตขึ้นไปแตะ 3.85 ล้านราย จากประมาณ 3 ล้านรายในปี 67
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 68)





