จีนแถลงจุดยืนหนุนศาลฮ่องกงลงโทษ “จิมมี ไล” ชี้พฤติการณ์บ่อนทำลายความมั่นคง

สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกแถลงการณ์วันนี้ (15 ธ.ค.) เพื่อแสดงการสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ในการดำเนินกระบวนการยุติธรรมและมีคำพิพากษาลงโทษ จิมมี ไล นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยที่ถูกทางการฮ่องกงจับกุมและดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ

ศาลสูงฮ่องกงมีคำพิพากษาในวันนี้ว่า จิมมี ไล เจ้าพ่อสื่อผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Apple Daily มีความผิดใน 2 ข้อหา ได้แก่ ฐานสมคบคิดเพื่อสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ และฐานสมคบคิดเพื่อตีพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหายุยงปลุกปั่น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักงานฯ ได้ระบุผ่านบทความในสื่อสังคมออนไลน์ภายหลังทราบผลคำพิพากษาว่า กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาลได้ปรากฏพยานหลักฐานอันเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า จิมมี ไล มีพฤติการณ์เป็นผู้บงการและผู้มีส่วนร่วมสำคัญในเหตุจลาจลต่อต้านจีนหลายระลอก อีกทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความพยายามก่อ “การปฏิวัติสี” (Color Revolution) ในฮ่องกง และทำหน้าที่เป็นเครื่องมือของกองกำลังต่างชาติในการบ่อนทำลายความมั่นคง

บทความดังกล่าวระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จิมมี ไล ได้เข้าร่วมกับกองกำลังต่างชาติและกลุ่มอิทธิพลภายนอก ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการบ่อนทำลายหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อย่างรุนแรง สร้างภยันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ทำลายความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง ตลอดจนส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์และสุขภาวะของประชาชนชาวฮ่องกงโดยตรง

สำนักงานฯ ย้ำว่า การปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์แห่งการพัฒนาชาติ ถือเป็นหลักการสูงสุดของนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีหน้าที่ความรับผิดชอบตามรัฐธรรมนูญในการพิทักษ์รักษาความมั่นคงของชาติ ซึ่งในปัจจุบัน ฮ่องกงมีกรอบทางกฎหมายและกลไกการบังคับใช้เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยยุคสมัยที่กองกำลังต่างชาติและกลุ่มต่อต้านจีนจะสามารถกระทำการบ่อนทำลายโดยปราศจากความผิดนั้นได้สิ้นสุดลงแล้วอย่างถาวร

สำนักงานฯ ระบุว่า บุคคลหรือองค์กรใดที่บังอาจท้าทายกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงของชาติ หรือดำเนินกิจกรรมอันเป็นภยันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ย่อมต้องได้รับโทษทัณฑ์อย่างรุนแรงตามกฎหมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ความพยายามของกองกำลังต่างชาติในการกดดันหรือแทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดีความมั่นคง หรือแม้แต่การข่มขู่ว่าจะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่รัฐและบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมของฮ่องกง จะมิอาจสั่นคลอนปณิธานอันแน่วแน่ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในการรักษาความมั่นคงของชาติได้

ทั้งนี้ ไล วัย 78 ปี ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลจีนบังคับใช้ในฮ่องกงตั้งแต่ปี 2563 โดยถูกควบคุมตัวตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 ขณะที่กระบวนการพิจารณาคดีเริ่มขึ้นในเดือนธ.ค. 2566 ซึ่งเขาได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

คดีของไลได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เคยหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ระหว่างการพบปะกันที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนต.ค. พร้อมเรียกร้องให้จีนปล่อยตัวไล

คำตัดสินดังกล่าวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของฮ่องกง นับตั้งแต่ที่มีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พื้นที่ทางการเมืองของฝ่ายประชาธิปไตยในฮ่องกงถดถอยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ คำพิพากษามีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังพรรคการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยเก่าแก่ที่สุดของฮ่องกง ประกาศยุบพรรค หลังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมาเป็นเวลา 31 ปี ขณะที่การเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง ซึ่งจำกัดผู้สมัครเฉพาะผู้ที่ผ่านการรับรองจากรัฐ มีอัตราผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งต่ำเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของฮ่องกง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 68)