
ผลสำรวจล่าสุดของเวสต์แพค-สถาบันเมลเบิร์น ที่เปิดเผยในวันนี้ (16 ธ.ค.) ชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของออสเตรเลีย ปรับตัวลดลง 9% มาอยู่ที่ระดับ 94.5 หลังจากพุ่งขึ้น 12.8% ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 100 สะท้อนว่าจำนวนคนมองสถานการณ์ในแง่ร้ายมีมากกว่าคนมองในแง่ดี
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียปรับตัวลดลงในเดือนธ.ค. หลังเพิ่งฟื้นตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปีเมื่อเดือนก่อนหน้า ท่ามกลางความกังวลที่กลับมากดดันจากเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
เมื่อพิจารณารายองค์ประกอบ พบว่า มุมมองต่อฐานะการเงินครัวเรือนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลดลง 6.1% เหลือ 102.4 ขณะที่มุมมองต่อเศรษฐกิจในระยะ 1 ปีข้างหน้าปรับตัวลดลง 9.7% และมุมมองเศรษฐกิจในระยะ 5 ปีข้างหน้าลดลง 11.7%
ไรอัน เวลส์ นักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพค ระบุว่า ผู้บริโภคเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อไตรมาส 3/68 ที่ออกมาสูงกว่าคาด รวมถึงสัญญาณเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค.
เวลส์กล่าวว่า ผลสำรวจในช่วงสัปดาห์ดังกล่าวไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผู้ตอบแบบสอบถามก่อนและหลังการตัดสินใจของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ซึ่งคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.6% ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พร้อมส่งสัญญาณว่าวงจรการปรับลดดอกเบี้ยได้สิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งนี้ เวลส์เสริมว่า การตัดสินใจและการสื่อสารภายหลังของ RBA ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้บริโภคมากนัก เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 68)





