เลือกตั้ง’69: “เพื่อไทย” จัดทัพ 500 สส.-ชูนโยบายแก้ปัญหาผ่าน 3 เสาหลัก มั่นใจแลนด์สไลด์กวาดกว่า 200 ที่นั่ง

นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ว่า เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ตนได้รับโอกาสจากพรรคเพื่อไทยให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ และจนถึงวันนี้ อุดมการณ์ของพวกเราไม่เคยเปลี่ยน “พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน” ซึ่งวันที่ 8 ก.พ.69 ไม่ใช่เพียงแค่การเลือกตั้ง แต่คือวันแห่งความหวังของประชาชน เพื่อวางรากฐานของประเทศไทยให้คนไทย ให้ “คนจนรวยขึ้น และ คนรวยไม่จนลง”

นายยศชนัน กล่าวต่อว่า วันนี้ปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาโลกร้อน รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างเฉียบพลัน ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย 4 เรื่องหลัก คือ

1. การแก้ปัญหาจากต้นเหตุ ซึ่งหลายคนมองว่าพรรคเพื่อไทยทำเรื่องประชานิยม แต่ DNA ของเพื่อไทย คือต้องแก้ปัญหาที่สาเหตุ สิ่งสำคัญที่สุดคือการปลดหนี้ไปพร้อมกับการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อให้ไม่ต้องกลับมาเป็นหนี้อีก

2. ส่งเสริมเครื่องยนต์เศรษฐกิจเดิม ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น ด้วยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีทุกรูปแบบ เช่น เรื่องการเกษตร การปรับปรุงพันธุ์พืช การปรับปรุงปุ๋ยให้เหมาะกับพืช อุตสาหกรรมการผลิต การสร้างเครื่องจักร-เครื่องยนต์ให้ใช้งานกับ AI ได้ ไปจนถึงการหาตลาดใหม่ ๆ รวมทั้งในภาคบริการ การคมนาคม-ขนส่ง ตลอดจนการทำงานของตำรวจ ที่สามารถใช้ AI เข้ามาดูแลความปลอดภัยทุกรูปแบบ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

3. การสร้างเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมา ขยายโอกาสใหม่ ๆ ขึ้นมาในทุกมิติ เช่น การเกษตรมูลค่าสูง อุตสาหกรรมสมุนไพร อาหารทางการแพทย์/ อุตสาหกรรมมูลค่าสูง เช่น เครื่องมือแพทย์ เซมิคอนดักเตอร์ หรือแม้กระทั่งอุตสาหกรรม AI/ การบริการมูลค่าสูง เช่น เศรษฐกิจ Wellness และเศรษฐกิจสร้างสรรค์

4. อำนาจหน้าที่ของภาครัฐ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และการสร้างคนสำหรับการสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งอธิปไตยคือสิ่งสำคัญที่สุด พร้อมย้ำว่า ยาเสพติด ไม่จบไม่เลิก คอร์รัปชั่น ไม่จบไม่เลิก สแกมเมอร์ ไม่จบไม่เลิก

“วันนี้ อยากให้ทุกท่านเชื่อใจ นอกจากเรื่องนี้ ยังมีเรื่องของคน ยังมีเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ยังมีเรื่องสวัสดิการ และมีเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทุกคนเชื่อมั่นได้เลยว่าเราจะทำได้แน่นอน เพราะเราไม่ได้เดินโดยลำพัง วันนี้เรามีพี่น้องพรรคไทยรักไทยกลับมา และวันนี้เรามีพี่น้องพรรคเพื่อไทยผู้มากประสบการณ์ ยังอยู่กับเรา และต้อนรับสายเลือดใหม่ของพรรคเพื่อไทย” นายยศชนัน กล่าว

พร้อมระบุว่า ตนมักจะเปรียบเสมอว่าเราเหมือนกับยืนอยู่บนบ่ายักษ์ใจดีตัวหนึ่ง ทำให้สามารถมองเห็นความหวังของคนไทยได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าลูกหลานของเราจะเกิดที่ไหน ต้องได้เติบโตขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน ร่วมกันสร้างประเทศที่ดีให้ลูกหลานของเราอีกครั้ง นับถอยหลังสู่วันแห่งความหวัง 8 กุมภาพันธ์ สู้ไปด้วยกัน พร้อมย้ำสโลแกน “เพื่อไทยทำได้ ทำให้ไทยยิ่งใหญ่ เลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค”

“จุลพันธ์” นำเสนอแก้ปัญหา ผ่าน 3 เสาหลัก “เศรษฐกิจ-มั่นคง-นิติรัฐ”

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เสนอนโยบายเชิงโครงสร้าง เพื่อพัฒนาประเทศ แก้ปัญหาให้กับประชาชน ผลักดันให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า โดยจะต่อสู้กับพลังที่ฉุดรั้งให้ประเทศถดถอย เช่น เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล และเรื่องปัญหานิติรัฐ นิติธรรม

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ขอเสนอตัวในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ผ่าน 3 เสาหลัก ในการออกแบบนโยบาย ประกอบด้วย 1.เสาด้านเศรษฐกิจ 2.เสาด้านความมั่นคง และ 3.เสาด้านนิติรัฐ นิติธรรม

โดยในด้านเศรษฐกิจนั้น พรรคเพื่อไทย วางเป้าหมายว่าภายใน 4 ปี ต้องขับเคลื่อนให้ประเทศเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ไม่น้อยกว่า 5% โดยตั้งเป้าแก้ไขความเหลื่อมล้ำ มียุทธศาสตร์ Geo economic ผ่านนโยบายการค้า-การคลัง จะมีการยกระดับประเทศเป็นประเทศรายได้สูง ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ส่วนด้านความมั่นคง พรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญด้านการทหาร ด้านไซเบอร์ และความมั่นด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ด้านนิติรัฐ นิติธรรม พรรคให้ความสำคัญกับความธำรงไว้ซึ่งหลักการประชาธิปไตย เป็นสิ่งคำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย ที่จะทำให้ได้รับความยอมรับจากประชาคมโลก

“ด้วย 3 เสาหลัก ตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา ที่พรรคไทยรักไทยถูกก่อตั้งโดยท่านทักษิณ ชินวัตร เรายังคงเป็นพรรคการเมืองที่ทำนโยบายตอบโจทย์ประชาชน ยังยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอมา พรรคเพื่อไทย เป็นสถาบันการเมืองที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชน เพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าให้กับประชาชน” นายจุลพันธ์ กล่าว

พร้อมระบุว่า ประเทศไทยรุมล้อมด้วยวิกฤติหลายด้าน ทั้งวิกฤติการเมือง วิกฤติรัฐธรรมนูญ วิกฤติในความแตกแยกประชาชน วิกฤติปัญหาชายแดน และวิกฤติเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ดังนั้นการเลือกตั้งในครั้งนี้จึงมีความสำคัญมากสำหรับอนาคตประเทศไทย

“เราไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพียงเพื่อเปิดตัวผู้สมัคร แต่เรามาเพื่อประกาศกับคนไทยทั้งประเทศว่า พรรคเพื่อไทย พร้อมแล้ว ประเทศไทย พร้อมแล้ว การเปลี่ยนแปลงกำลังเริ่มตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป โอกาส และความหวังประชาชนเริ่มที่นี่ พรรคเพื่อไทยทำได้ ประเทศไทยก็ทำได้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตลอดเส้นทางการเมืองของพวกเรา ตั้งแต่รัฐบาลของนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร, นายกฯ สมัคร สุนทรเวช, นายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนถึงรัฐบาลของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ต่างมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่า เราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจเติบโต และเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ทำสวัสดิการโดยรัฐสำเร็จผ่านโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ทำโครงการ Micro Credit ประสบความสำเร็จผ่านนโยบายกองทุนหมู่บ้าน และปฏิรูประบบราชการสำเร็จ ผลงานของพรรคเพื่อไทยได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทยอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า ประเทศไทยยกเครื่องได้จริง

ทั้งนี้ พรรคจะนำเสนอนโยบายประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% พร้อมนโยบายพักหนี้เกษตรกร และตั้งเป้าหมายราคาสินค้าเกษตรหลัก เช่น ข้าวหอมมะลิที่ 15,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือก 10,000 บาท/ตัน ยางพารา 70 บาท/กิโลกรัม ข้าวโพด 7.25 บาท*กิโลกรัม และมันสำปะหลัง 3 บาท/กิโลกรัม พร้อมกับทำนโยบายการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในราคาที่เหมาะสม ด้วยนโยบายไฟฟ้าเพื่อคนไทย ค่าไฟไม่เกิน 3.75 บาท/หน่วย โดยเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอน

นอกจากนี้ สำหรับนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เด็ดขาดและครบวงจร จะเดินหน้าปราบผู้ค้ายา สานต่อนโยบาย Seal Stop Safe และนโยบาย 1 จังหวัด 1 ศูนย์บำบัด ซึ่งจะฟื้นฟูความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ทำให้ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด

พร้อมกันนี้ พรรคเพื่อไทยจะยกระดับความมั่นคงทางทหาร ความมั่นคงทางไซเบอร์ เพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาสแกมเมอร์จะมีการยกระดับความปลอดภัยธุรกรรมออนไลน์ โดยให้ธนาคารและผู้ประกอบการโทรคมนาคม ร่วมมีส่วนรับผิดชอบด้วย โดยจะมีตั้งกองทุนเพื่อคืนเงินให้แก่ผู้ถูกหลอกหลวงจากมิจฉาชีพทุกประเภท และขึ้นบัญชีดำอาชญกรข้ามชาติ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาทุนเทาอย่างเป็นรูปธรรม

“พวกเรามีทั้งคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ ผ่านบทเรียนทั้งเจ็บปวด และภาคภูมิใจ เรามีความหลากหลาย แต่มีจิตวิญญาณเป้าหมายที่เหมือนกันมีแต่พวกเรา ที่จะนำพาประเทศหลุดพ้นจากความยากจน จงอย่ากลัวการพัฒนา มีแต่พวกเราที่จะพาประเทศของเราไปข้างหน้า พวกเราคือพรรคเพื่อไทย มีแต่พรรคเพื่อไทยที่ทำได้” นายจุลพันธ์ กล่าว

“สุริยะ” มั่นใจ เพื่อไทย ได้ สส. 200 ที่นั่ง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้ย้ำถึงยุทธศาสตร์ และความพร้อมของพรรคในทุกมิติ ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้เลือกแค่คน แต่คือเลือกทิศทางประเทศ ในด้านนโยบาย รอบนี้เราทำการบ้านหนักขึ้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา หลายนโยบายพร้อมสานต่อได้ทันที

“รอบนี้ เรายิ่งทำการบ้านมากขึ้น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หลายนโยบายพร้อมสานต่อได้ทันที นอกจากนี้ เรามีนโยบายโค้งสุดท้ายอีกหลายตัว ที่พร้อมเปิด อยากให้พี่น้องประชาชนรอติดตาม” นายสุริยะ กล่าว

สำหรับความพร้อมหลังบ้าน มีการแบบมืออาชีพ มีการปรับแผนตลอดเวลา มีการทำโพลและประเมินผลต่อเนื่อง เพื่อวัดกระแสตอบรับประชาชน และประสิทธิภาพทำงานของ สส.ในพื้นที่ เพื่อปรับแผนและปรับวิธีทำงานให้สอดรับสถานการณ์การจริงในแต่ละพื้นที่

นายสุริยะ กล่าวว่า หลังจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าปราศรัยทุกภูมิภาคอย่างจริงจัง แคนดิเดตของพรรคจะเร่งเดินหน้าเล่านโยบายผ่านการปราศรัย ให้ประชาชนเห็นว่าเราพร้อมจริง และทำได้จริง และในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง ยืนยันว่า ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคเพื่อไทยจะได้ สส.ไม่ต่ำกว่า 200 ที่นั่งอย่างแน่นอน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 68)