นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 1/67 รวม 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,700 ล้านบาท แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพฯ 2 โครงการ ได้แก่ “มารูน รัชดา” (Maroon Ratchada) คอนโดมิเนียมใหม่ใจกลางซอยรัชดาภิเษก 32 จำนวน 353 ยูนิต ราคาเริ่มที่ 1.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท และ “เอสต้า ซีรีนิตี้” (Esta Serenity) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 137 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการเตรียมเปิดตัวคอนโดฯ ในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ “เดอะไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง” (The Title Serenity Naiyang) มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท และ “เดอะไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา” (The Title Heritage Bangtao) มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการมารูน รัชดา (Maroon Ratchada) เป็นคอนโดฯ แห่งที่ 4 ที่บริษัทฯ พัฒนาในย่านรัชดา ซึ่งถือได้ว่าบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในทำเลดังกล่าว โดยจะเข้ามารองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่กับคอนโดฯ ใจกลางรัชดา 32 และโครงการ”เอสต้า ซีรีนิตี้” (Esta Serenity) โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์ Modern Thai บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่บรมราชชนนี และแม่น้ำท่าจีน ใกล้ทั้ง Central ศาลายา และ ม.มหิดล
ส่วนโครงการที่ภูเก็ตทั้ง 2 โครงการใหม่ ได้แก่ “เดอะไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา” (The Title Heritage Bangtao) และ “เดอะไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง” (The Title Serenity Naiyang) เป็นการต่อยอดความสำเร็จหลังโครงการ “เดอะไทเทิล เลเจนดารี บางเทา” (The Title Legendary Bang-Tao) มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อย ซึ่งเปิดขายเมื่อช่วงปลายปี 2566 ปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้กว่า 80% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ “เดอะไทเทิล” และสัญญาณตลาดเมืองท่องเที่ยวเป็นบวก
“ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอสังหาฯ จากกรุงเทพฯ หลายรายเข้าไปพัฒนาโครงการเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ต แต่เนื่องจากจุดแข็งของ TITLE ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำในภูเก็ต ที่มีทีมผู้บริหาร และพนักงาน ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญตลาดในพื้นที่มากว่า 10 ปี มีฐานลูกค้าและเข้าใจการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติเป็นอย่างดี ตลอดจนยังมีบริษัทบริหารนิติบุคคลอาคารชุดเอง ซึ่งยิ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวต่างชาติ รวมทั้งมีเครือข่ายเอเจ้นท์ (Agent) ที่มีศักยภาพในการขายลูกค้าชาวต่างชาติ ดังนั้นแบรนด์เดอะไทเทิลจึงมีความแข็งแกร่งในตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต ทั้งนี้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าทั้งสองโครงการใหม่จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อชาวต่างชาติเช่นเดียวกัน” นายกรมเชษฐ์กล่าว
อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 62 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 82,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 45 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 17 โครงการ และ ณ สิ้นปี 2566 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 19,575 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 67)
Tags: ASW, กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์, หุ้นไทย, แอสเซทไวส์