
ชินอิจิ อุจิดะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า BOJ จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวจากผลกระทบภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันก็เตือนด้วยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูงมาก ดังนั้นการจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
อุจิดะกล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า หากเศรษฐกิจดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ใกล้เป้าหมาย 2% ที่ BOJ ตั้งเป้าไว้ โดยในช่วงที่ผ่านมานั้น ราคาสินค้าในญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น เนื่องจากต้นทุนสินค้านำเข้าสูงขึ้น และราคาอาหารแพงขึ้น โดยเฉพาะข้าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการครองชีพของประชาชน
รองผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่นกล่าวว่า “หากเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ เราจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป” อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของแต่ละประเทศนั้นสูงมาก ดังนั้น BOJ จะตัดสินใจโดยพิจารณาตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงว่า เศรษฐกิจและราคาเคลื่อนไหวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของธนาคารหรือไม่
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลง 0.2% ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งเป็นการหดตัวรายไตรมาสครั้งแรกในรอบหนึ่งปี และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.1% นอกจากนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี GDP ไตรมาสแรกหดตัวลง 0.7% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบสี่ไตรมาส และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.2%
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดันจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว ญี่ปุ่นยุตินโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดำเนินมานานนับสิบปี และในเดือนม.ค. BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% และส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวและทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 68)
Tags: BOJ, ชินอิจิ อุจิดะ, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, เศรษฐกิจญี่ปุ่น