ชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีเกษตรคนใหม่ของญี่ปุ่นซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อสองวันก่อน ให้คำมั่นในวันนี้ (23 พ.ค.) ว่าจะเร่งดำเนินการกระจายข้าวจากคลังสำรองของรัฐบาลไปยังร้านค้าปลีกให้เร็วที่สุด โดยตั้งเป้าจำหน่ายในราคาที่ต่ำลงอย่างมาก เพื่อหยุดยั้งแนวโน้มของผู้บริโภคที่จะหันไปเลือกซื้อข้าวนำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ
ขณะนี้ข้าวจากคลังสำรองเริ่มทยอยถูกปล่อยออกมาตั้งแต่เดือนมี.ค. แต่ราคาบนชั้นวางสินค้ายังไม่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยรัฐบาลตั้งเป้าให้ข้าวเหล่านี้วางจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 3,000 เยน (ประมาณ 21 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อ 5 กิโลกรัมภายในต้นเดือนมิ.ย. ซึ่งถูกกว่าราคาเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่สูงถึง 4,268 เยน และเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีก่อน
ราคาข้าวที่พุ่งสูงในญี่ปุ่นมีสาเหตุจากหลายปัจจัยทั้งความเสียหายของพืชผลที่เกิดจากสภาพอากาศร้อนจัด และความต้องการที่พุ่งขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาหลังยุคโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนไม่พอใจ และกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันรัฐบาล ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเตรียมจัดการเลือกตั้งวุฒิสภาในเดือนก.ค.
โคอิซูมิเตือนว่า การพุ่งขึ้นของราคาข้าวในระดับที่ผิดปกติ อาจทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากหันไปพึ่งพาข้าวจากต่างประเทศแทน พร้อมเสริมว่า ขณะนี้มีซูเปอร์มาร์เก็ตที่นำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ โดยตรง แม้ต้องจ่ายภาษี เราต้องยุติสถานการณ์ผิดปกตินี้โดยเร็วที่สุด
ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดที่เผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า ราคาข้าวที่พุ่งขึ้นมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเงินเฟ้อด้านอาหารให้สูงถึง 7.0% ในเดือนเม.ย. เทียบกับ 6.2% ในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีนโยบายเน้นการพึ่งพาตนเองด้านอาหาร และวางกำแพงภาษีเพื่อปกป้องเกษตรกรในประเทศมาโดยตลอด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
Tags: ชินจิโร โคอิซูมิ, ญี่ปุ่น, ราคาข้าว, เงินเฟ้อ