
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี และ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เรื่อง การพัฒนาระบบนิเวศการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและการพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อร่วมกันติดตามสถานการณ์ของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ พื้นที่อีอีซี พร้อมกับสนับสนุนการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ผ่านการขับเคลื่อนนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และยกระดับเครือข่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในประเทศ
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการ กพอ. กล่าวว่า ความร่วมมือตาม MOU นี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ สกพอ. และ สอวช. จะร่วมดำเนินการใน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1) การร่วมมือในการประเมินศักยภาพของอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในพื้นที่อีอีซี และสนับสนุนการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ
2) การส่งเสริมระบบนิเวศการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในพื้นที่อีอีซี ตั้งแต่การสนับสนุนการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง โดยมุ่งเป้าให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา การยกระดับเครือข่ายระหว่างภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อสนับสนุนการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง การสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ
3) สนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนาฐานข้อมูลนักวิชาการและแรงงานทักษะสูง ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ และพัฒนาแนวทางการพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ
ทั้งนี้ สกพอ. พร้อมจะให้ความสำคัญการพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษตามความต้องการของประเทศ โดยจะขับเคลื่อนผ่านแนวทางและกลไกของ สอวช. ในการส่งเสริมการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงตอบโจทย์การลงทุนของภาคผลิตและบริการ อาทิ นโยบายพัฒนากำลังคน (Manpower Policy) ซึ่งมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนและปฏิรูประบบและกลไกกำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษา และแพลตฟอร์ม STEM Plus ที่มุ่งเน้นที่ตำแหน่งงานระดับสูงในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) ครอบคลุมอุตสาหกรรม New S-curve ได้แก่ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดยที่ผ่านมาทำให้เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 10,684 อัตรา และมีผู้ผ่านการฝึกอบรม 445,967 คน จาก 1,205 หลักสูตร 129 หน่วยฝึกอบรม ซึ่งกลไกเหล่านี้จะช่วยพัฒนาหลักสูตรให้มีความสอดคล้องและต่อเนื่อง นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาดงานอย่างยั่งยืนในพื้นที่อีอีซีและประเทศต่อไป
นายสุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวว่า สอวช. มีภารกิจในการกำหนดแนวทางในการนโยบายการพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษของประเทศ โดยขับเคลื่อนใน 4 มิติ ได้แก่
1) Formulation ปรับนโยบายพัฒนากำลังคนตามความต้องการของประเทศ
2) Adoption จัดลำดับความสำคัญการพัฒนากำลังคนทักษะสูง ผ่านนวัตกรรมการจัดการศึกษา
3) Integration การสร้างแพลตฟอร์มการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงตอบการลงทุนของภาคผลิตและบริการ (STEM Plus)
4) Evaluation กำหนดเป้าหมายสัดส่วนกำลังคนสมรรถนะสูง 25% และเพิ่มสัดส่วนหลักสูตรบูรณาการ
สำหรับความร่วมมือระหว่าง อีอีซี และ สอวช. ในครั้งนี้ จะเป็นการร่วมกันทำงานเชิงรุก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของภาคการผลิตและบริการ โดยมีพื้นที่อีอีซี เป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญ ด้วยเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและบริการของประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 68)
Tags: ข้อตกลง, ภาคตะวันออก, ระบบนิเวศ, สกพอ., สอวช., อุตสาหกรรม, เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก