
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 8 จุด สู่ระดับ 101.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่ผู้บริโภคมีความหวังว่าเกาหลีใต้จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในเกาหลีใต้ที่คลี่คลายลงยังช่วยให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 100 บ่งชี้ว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองบวกต่อภาวะเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นลบ
ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ลดลงหลังการถอดถอนอดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกาหลีใต้เริ่มฟื้นตัว หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นดิ่งลงแตะระดับ 88.2 จุดในเดือนธ.ค. 2567 ภายหลังจากอดีตปธน.ยุนประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งเป็นเหตุให้สถานการณ์การเมืองของเกาหลีใต้ตกอยู่ในความไม่แน่นอน
ส่วนอีกปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวขึ้นมาจากความหวังที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างเกาหลีใต้กับรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีความคืบหน้า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับบรรดาประเทศคู่ค้าในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเกาหลีใต้ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% แต่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศผ่อนผันการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วันหลังจากนั้นไม่นาน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาทวิภาคี
รายงานระบุว่า การเจรจาด้านการค้าระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เฟสแรกมีความคืบหน้า โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำข้อตกลงบางส่วนซึ่งมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ก่อนวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งเป็นวันที่การผ่อนผันภาษีศุลกากร 90 วันของปธน.ทรัมป์จะหมดอายุลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 68)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, ธนาคารกลางเกาหลีใต้, เศรษฐกิจเกาหลีใต้