
บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ 20 แห่งในญี่ปุ่นยื่นคำขอซื้อข้าวจากคลังสำรองของรัฐบาลรวมปริมาณ 110,000 ตัน หลังรัฐมนตรีเกษตรคนใหม่ประกาศแผนจัดจำหน่ายข้าวโดยตรง เพื่อให้ควบคุมราคาที่พุ่งสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปริมาณคำขอซื้อครั้งนี้คิดเป็นมากกว่า 30% ของข้าวสำรอง 300,000 ตัน ที่รัฐบาลตั้งเป้าจะปล่อยสู่ตลาดผ่านสัญญาขายตรงกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ แทนการเปิดประมูลซึ่งใช้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับคำขอซื้อจากบริษัท 19 แห่ง คิดเป็นราว 90,000 ตัน รวมถึงผู้ประกอบการเครือร้านค้าลดราคาอย่าง Don Quijote และกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Rakuten Group Inc. ขณะเดียวกัน บริษัทซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ Aeon Co. ระบุแยกต่างหากว่าได้ยื่นขอซื้อข้าวจากรัฐเพิ่มเติมอีกประมาณ 20,000 ตัน
นอกจากนี้ โคอิซูมิยังระบุว่า รัฐบาลจะเริ่มทำสัญญากับบางบริษัทภายในวันนี้ และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบข้าวได้เร็วที่สุดในวันพฤหัสบดีนี้ (29 พ.ค.) พร้อมเผยว่ากำลังพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การเข้าร่วม ซึ่งปัจจุบันจำกัดเฉพาะผู้ค้าปลีกรายใหญ่ เพื่อขยายโอกาสให้ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กและร้านค้าขายข้าวรายย่อยสามารถเข้าร่วมได้
ด้านอิออนมีแผนวางจำหน่ายข้าวที่ซื้อจากรัฐบาลในสาขาทั่วประเทศตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. ในราคาประมาณ 2,000 เยน (ประมาณ 450 บาท) ต่อ 5 กิโลกรัม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการควบคุมราคาขายปลีก
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (26 พ.ค.) โคอิซูมิประกาศว่า รัฐบาลจะจำหน่ายข้าวสำรองผ่านสัญญาขายตรง แทนการใช้ระบบประมูลแบบเดิม ถือเป็นการเปลี่ยนมาใช้แนวทางแทรกแซงราคาอย่างเชิงรุก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นมักหลีกเลี่ยงมาตรการในลักษณะนี้
ทั้งนี้ ราคาข้าวเฉลี่ยในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน แม้รัฐบาลจะพยายามบรรเทาผลกระทบด้วยการปล่อยข้าวสำรองสู่ตลาดหลายครั้งก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 68)
Tags: ข้าว, ญี่ปุ่น