SET ปิดเช้าวันนี้ 1,112.70 จุด ลดลง 10.00 จุด (-0.89%) มูลค่าซื้อขายราว 21,177.04 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงจากหลายปัจจัย ทั้งอิสราเอล-อิหร่านยกระดับความรุนแรง สงครามการค้าของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจในประเทศได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวหดตัว ประกอบกับ แรงเทขายหุ้น AOT กดดันอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มบ่ายวันนี้คาดแกว่งในแดนลบต่อเนื่อง แนะนำให้ติดตามการตอบโต้กันในตะวันออกลาง และการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,105 จุด แนวต้าน 1,120 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดเช้าวันนี้ที่ 1,112.70 จุด ลดลง 10.00 จุด (-0.89%) มูลค่าซื้อขายราว 21,177.04 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นเช้านี้ ดัชนีปรับตัวลง โดยทำระดับสูงสุด 1,123.83 จุด และต่ำสุด 1,107.79 จุด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันหลายเรื่อง จากปัจจัยเดิม ๆ ทั้งสงครามการค้าระหว่างประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัวลง เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะเศรษฐกิจเติบโตได้ยากเป็นเดิมทีอยู่แล้ว และในช่วงนี้ยังได้รับปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่ยกระดับความรุนแรงขึ้น ส่งกระทบต่อทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมา
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเองก็ยังต้องเผชิญกับแรงขายของหุ้น AOT กดดันอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KRD) ส่งสัญญาณต้องการเจรจาปรับลดเงื่อนไขผลประโยชน์ที่ต้องมอบให้กับ AOT หลังกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนหายไปค่อนข้างมาก ซึ่งโบรกประเมินว่าจะกระทบกับภาพรวมผลการประกอบการของ AOT ภายในปีนี้
แนวโน้มภาคบ่ายวันนี้ คาดว่าตลาดจะแกว่งในแดนลบต่อไป แนะติดตามการตอบโต้กันระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ซึ่งจะส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลกแน่นอนหากยังไม่สามารถคลี่คลายลงได้ และติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์นี้
ให้แนวรับ 1,105 จุด และแนวต้าน 1,120 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,210.25 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,382.98 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,182.45 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,080.84 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
GULF มูลค่าการซื้อขาย 782.65 ล้านบาท ปิดที่ 43.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 68)
