หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน กังวลเสถียรภาพรัฐบาล จับตาท่าที “ทรัมป์” ร่วมสมรภูมิตะวันออกกลาง

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดตลาดผันผวน โดยมีปัจจัยกดดันระยะสั้นที่มีน้ำหนักมากสุดของวัน จากความกังวลเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ที่สถานการณ์ความตึงเครียดยังคงคลุมเครือและยังไม่มีแนวทางที่แก้ไขชัดเจนสำหรับแนวร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจไทยได้ในวงกว้าง อีกทั้งประเด็นดัชนี FTSE Rebalancing ในช่วงท้ายของวันนี้ ที่จะมีการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยในบางส่วน

แนวโน้มในวันนี้ แนะให้ติดตามท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก และปัจจัยภายนอก ยังมีเรื่องของความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยังคงไม่แน่นอน จึงแนะนำให้ติดตามท่าทีของสหรัฐว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมอย่างไร หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐขอเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนตัดสินใจส่งกองทัพเข้าอิหร่าน

โดยให้กรอบแนวรับ 1,050 จุดและแนวต้าน 1,080 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 19 มิ.ย.เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth)

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,472.25 จุด ลดลง 16.09 จุด หรือ -0.04% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,291.40 จุด เพิ่มขึ้น 53.66 จุด หรือ +0.23% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,358.91 จุด ลดลง 3.20 จุด หรือ -0.10%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 มิ.ย.) 1,068.73 จุด ลดลง 25.85 จุด (-2.36%) มูลค่าซื้อขาย 46,634.59 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (19 มิ.ย.) 694.20 ล้านบาท

– ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 19 มิ.ย.เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth)

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด( 19 มิ.ย.) 6.53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.70 แนวโน้มผันผวนตามทิศทางดอลลาร์-ราคาทอง คาดกรอบวันนี้ 32.60-32.90

– การเมืองสัญญาณชัด นายกฯ อุ๊งอิ๊ง “ไม่ยุบสภา-ไม่ลาออก” แถลงการณ์ขอโทษประชาชน “ก.ต่างประเทศ” ซัดกลับ “ฮุนเซน” ขัดต่อจรรยาบรรณ-มารยาทปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะที่ “กล้าธรรม-ประชาชาติ-ชาติไทยพัฒนา” ประกาศชัดหนุนเดินหน้าต่อ ส่วน “ปชป.-รทสช” ยังไม่ทิ้ง แต่สงวนท่าทีขอเจรจาก่อน ตลาดหุ้นไทยเฝ้าดูท่าที

– “อนุทิน” กินข้าวเที่ยงโรงแรมดัง ร่วมวง “นายก อบจ.เพชรบูรณ์-เฮียเน้า แปดริ้ว” หลัง “ภท.” ประกาศถอนตัวร่วมรัฐบาล พร้อมนำหนังสือลาออกจาก “รองนายกฯ-มท.1”

– “เอกชน” หวั่นไทยเจอปัจจัยเสี่ยงซ้ำเติมเศรษฐกิจรอบด้าน หากเปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนรัฐบาล ขอให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย หวั่นงบกระตุ้นเศรษฐกิจค้างท่อ งบปี 69 สะดุด การเจรจาการค้าสหรัฐไม่ทันเส้นตาย 8 ก.ค.นี้

– กลุ่มซีพี, เอสซีบี เอกซ์ และกลุ่มกรุงไทย ได้รับใบอนุญาตธุรกิจธนาคารไร้สาขา หรือ “เวอร์ชวลแบงก์” (Virtual Bank) แบงก์ชาติแจงต้องเปิดภายใน 1 ปี นับจากวันที่ 19 มิ.ย. 68 เผยพร้อมเปิดให้มีการยื่นขออนุญาตเวอร์ชวลแบงก์รอบใหม่ ส่วนรายเก่าที่ไม่ผ่านพิจารณา ให้ยื่นใหม่ได้

– กบน.ตรึงราคาหน้าปั๊มต่อเนื่อง ลดเก็บเงินดีเซลเพิ่มอีก 70 สตางค์/ลิตร บรรเทาผลกระทบประชาชน “พาณิชย์” เกาะติดสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน เผยยังไม่กระทบต่อการส่งออกของไทย

– ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงผลกระทบมติคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในพื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68 ว่า ขอให้รัฐบาลทบทวนมติการขึ้นค่าแรง 400 บาท อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมเนื่องจากภาคธุรกิจมองว่า เป็นการดำเนินนโยบายที่เร็วและรุนแรงเกินไป ในช่วงที่เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลางที่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนและกำลังคน อาจทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยรับภาระไม่ไหว ต้องปิดกิจการ

 

หุ้นเด่นวันนี้

– CPAXT (ฟินันเซีย ไซรัส) “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 34 บาท บริษัทฯแจ้งตลาดฯ คณะกรรมการบริษัทมีมติยืนยันว่า บริษัทไม่มีแผนการลงทุนในโครงการอื่นๆ และไม่มีการให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับ MQDC ประเมินเป็น sentiment บวก กับ CPAXT จากประกาศยืนยันดังกล่าว และน่าจะช่วยลดความกังวลของตลาดฯที่เกี่ยวข้องกับ MQDC จากกรณีที่ออกหุ้นกู้ไม่ครบจำนวน ซึ่ง MQDC จะมีการออกหุ้นกู้รอบใหม่ เพื่อ roll over bond ที่จะครบกำหนดในวันที่ 25 ก.ค. 2568 มูลค่ารวม 4.9 พันลบ.

– PR9 (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 28 บาท ภาพกำไรไตรมาส 1/68 เด่น และคาดจะดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยคาดยังได้แรงหนุนจากลูกค้าต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตะวันออกกลางที่คาดจะมากขึ้นหลังผ่านช่วงเทศกาลถือศีลอดในช่วงเดือนมีนาคมแล้ว ผสานกับแนวโน้มผู้ป่วยในประเทศที่คาดจะเร่งขึ้นเช่นกัน ตามสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน โดยปีนี้มีฝนตกเร็ว ผสานกับการแพร่ระบาด COVID-19

– AURA (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AURA จากการแนวโน้มของราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความไม่สงบในตะวันออกกลางส่งผลให้เกิด volume สูงขึ้นในช่วงทองขาขึ้นโดยกำไรที่ดีขึ้นมาจากฝั่งขารับซื้อทอง รวมไปถึงเราคาดธุรกิจทองมาเงินไปจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยเรามองการเติบโตของสินเชื่อทองมาเงินไปจะขึ้นไปที่ 5.1 พันล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 4.5%QoQ โดย AURA มีสาขาเพิ่มเป็น 508 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 1/68 เราคาดการณ์ปีนี้จะเป็นปีทองต่อเนื่องของ AURA โดยมีเป้าหมายการเติบโตที่ระดับ 20-30% จากการขยายสาขา 156 สาขาในปี 2568 และตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อมาอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท เราคาดการณ์การ AURA จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องไปยัง ปี 2570

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มิ.ย. 68)