
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำทีม สส.และกรรมการบริหารพรรค ออกมาแถลงข่าวยืนยันจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อย่างเด็ดขาด หลังมีความพยายามติดต่อมา หรือแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีก็ตาม โดยระบุว่า จะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีมีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพเพื่อประชาชน
สำหรับกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุนเซนนั้น ไม่ว่าใครก็เอามาเผยแพร่ไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ละเมิดสิทธิบุคคล ส่วนเรื่องที่ผู้นำประเทศพูดไปนั้นเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีคนไทย ทำให้ประเทศชาติขาดความเชื่อมั่น และขาดศรัทธาจากประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน เพราะฉะนั้นผู้นำประเทศจะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่มีภาพนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคฯ ไปร่วมวงรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มีใครไปไหนหรอก ไม่ต้องถาม เขาคุยกันธรรมดา กินข้าวกันเฉย ๆ”
ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากร่วมรัฐบาลส่งผลให้เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ และมีความพยายามพูดคุยหา สส.ไปเพิ่มฝ่ายรัฐบาล ซึ่ง พปชร.ยืนยันว่า สส.ทุกคนไม่ไปร่วมรัฐบาล
“เพื่อไทยในตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เหมือนเรือที่กำลังจะจม ฝากไปถึงพรรคร่วมทุกพรรค ถ้ายังกอดคอกันอยู่จะจมน้ำตายกันหมดในเรือลำนี้ อยากให้ถอนตัวออกมา และช่วยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ประเทศเดินหน้า” นายชัยวุฒิ กล่าว
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีลาออกจนต้องเปลี่ยนนายกฯ และเลือกกันใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่จะร่วมรัฐบาลกันใหม่มาคุยกัน โดยฝากไปถึงทุกพรรคว่า วันนี้เป็นเวลาที่จะต้องพูดคุยกันว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไร เมื่อความผิดนี้เป็นความผิดของรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีลาออกก็ต้องเปลี่ยนแปลง โดยสภาเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่สามารถทำได้
“พรรคพลังประชารัฐไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย แต่พรรคอื่นสามารถมาคุยกันได้ เอานโยบายและแนวทางการทำงานมาคุยกัน เชื่อว่าจะมีทางออก ซึ่งวันนี้อยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรีว่าจะมีการลาออกหรือเปลี่ยนแปลงเมื่อใด หากมองสถานการณ์การเมืองตอนนี้ชี้ว่าไปไม่ไหวแล้ว” นายชัยวุฒิ กล่าว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของความผิดพลาดของนายกรัฐมนตรีที่คนไทยรับไม่ได้ กลับสร้างกระแสความเกลียดชังต่อรัฐบาล ประกอบกับเสียงรัฐบาลที่ปริ่มน้ำ การขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ก็เป็นไปได้ยาก และอะไรที่เป็นเรื่องดี ๆ ทำประโยชน์ให้ประชาชนนั้นไม่เกิดขึ้นเลย แก้ปัญหาให้กับประเทศไม่ได้แน่นอน มีแต่การแก้ปัญหาของตัวเอง ดังนั้นคนที่เสียเปรียบคือประชาชนที่จะเดือดร้อนแน่นอน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มิ.ย. 68)